Politics

เช็คที่นี่! เปิดผลสำรวจ ‘บิ๊กตู่ – ธนาธร’ ประชาชนหนุนใครมากกว่ากัน

ซูเปอร์โพล เผยประชาชน 70.8% สนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกรัฐมนตรีมากกว่า “ธนาธร ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ” ชี้ผลงานจับต้องได้

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ประชาชนหนุนใคร กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,645 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 25 – 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา พบว่า

การรับรู้ของประชาชนที่มีผลต่อความน่าเชื่อถือของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้แก่ เมื่อปีที่แล้ว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บอกศาลรัฐธรรมนูญว่า ไม่ทราบ จำไม่ได้ เรื่องโอนหุ้น 90.6% มีผลต่อความน่าเชื่อถือของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในขณะที่ 9.4% ไม่มีผล

ธนาธร บิ๊กตู่ 30863

นอกจากนี้ เมื่อปีนี้ ช่วงวิกฤตโควิด-19 กลุ่มนายธนาธร ระดมเงินบริจาค แจกประชาชน แต่ไม่ได้แจกเงินทุนที่ได้มาให้หมดแก่ประชาชน 90.3% มีผลต่อความน่าเชื่อถือของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในขณะที่ 9.7% ไม่มีผล

ในขณะที่ผลประมวล การรับรู้ของประชาชนที่มีผลต่อความน่าเชื่อถือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า เมื่อประชาชนไม่รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้มีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ช่วยเหลือเด็กนักเรียน เยาวชนที่ยากจนพิเศษได้ทุนเรียนฟรี พ่อแม่ผู้ปกครองได้รับพัฒนาทักษะมีงานทำ กำลังขยายถึงปริญญาตรี 69.7% มีผล ในขณะที่ 30.3% ไม่มีผล

นอกจากนี้ เมื่อไม่รู้ว่า รัฐบาลทำให้ประชาชนปลูกไม้มีค่าขายได้ คนอยู่กับป่าได้ตามที่กฎหมายกำหนด และในเมืองมีระบบขนส่งรถไฟฟ้า ความเจริญด้านเทคโนโลยี เกิดขึ้นหลายแห่ง 68.9% มีผล ในขณะที่ 31.1% ไม่มีผล

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อไม่รู้ว่า โครงการชิมช้อปใช้ ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ 69.4% มีผลต่อความน่าเชื่อถือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะที่ 30.6% ไม่มีผล

นอกจากนี้ เมื่อประชาชนไม่รู้ว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้ซื้อสินค้าจำเป็นได้ ซื้ออุปกรณ์การเรียนได้ ซื้อวัสดุการเกษตรได้ ซื้อตั๋วรถโดยสาร ตั๋วรถไฟได้ 69.8% มีผลต่อความน่าเชื่อถือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะที่ 30.2% ไม่มีผล

ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามว่า คนที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ที่จับต้องได้ ประชาชนได้ประโยชน์มากกว่ากันระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พบว่า ส่วนใหญ่ หรือ 76.6% ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะที่ 17.1% ระบุ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ 6.3% ระบุอื่น ๆ

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามว่า คนที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี มากกว่ากันระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พบว่า ส่วนใหญ่ หรือ 70.8% สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะที่ 19.2% สนับสนุน นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ 10.0% ระบุอื่น ๆ

Super Poll Infographics ประชาชนหนุนใคร 1 1536x970 1

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลสำรวจชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า วาทกรรมทางการเมืองที่แต่ละฝ่ายเร่งปลุกปั่นกระแสกันในขณะนี้ กับผลของการทำงานที่จับต้องได้ของผู้นำทางการเมือง แต่ละฝ่ายกำลังส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของประชาชนต่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี อย่างชัดเจน

โดยพบว่า เมื่อประชาชนจำได้ว่า ปีที่แล้ว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บอกต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ไม่ทราบ จำไม่ได้เรื่องการโอนหุ้น และปีนี้มีเรื่องเงินบริจาคช่วงโควิด-19 ที่แจกเงินให้ประชาชนไม่หมดดังปรากฏตามข่าว กำลังส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจจะได้รับผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ เพราะประชาชนไม่รู้เรื่องในผลงานที่ผ่านมา ที่เกี่ยวกับ เด็กและเยาวชน

เช่น กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาของรัฐบาล ที่ช่วยเหลือเด็กนักเรียน เยาวชนยากจนพิเศษหลายแสนรายทั่วประเทศให้มีทุนเรียนฟรี มีเสื้อผ้านักเรียน อาหารฟรี อุปกรณ์การเรียนฟรี พ่อแม่ผู้ปกครองได้รับการดูแลเรื่องสัมมาชีพ และกำลังจะขยายผลถึงระดับปริญญาตรีมีทุนเรียนฟรีแบบให้เปล่า เรียนจบมีงานทำ ซึ่งการไม่รู้ของประชาชนเหล่านี้มีผลต่อความน่าเชื่อถือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่นกัน

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวอีกว่า ถ้าประชาชนจำผลงานที่จับต้องได้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นผลดีส่งผลทำให้ประชาชนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี มากกว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปีที่แล้วมีเรื่อง ไม่ทราบ จำไม่ได้ เรื่องการโอนหุ้น กับปีนี้มีเรื่อง เงินบริจาคช่วงโควิด-19 ที่มีผลต่อความน่าเชื่อถือของประชาชน ต่อนายธนาธร

แต่การยุยง ปลุกปั่นกระแสการเมืองที่แรง ๆ ใช้การสื่อสารข้อความการเมืองสั้น ๆ โดนใจคนรุ่นใหม่สามารถปั่นเบี่ยงเบนกลบกระแสแย่ ๆ ของฝ่ายการเมืองได้ และถูกผสมโรงรุมถล่มประเทศไทยจากฝ่ายการเมืองระหว่างประเทศที่กำลังรวมตัวกันสั่นคลอนเสาหลักของชาติในเวลานี้ ดังนั้น ถ้าคนไทยทั้งประเทศรู้เท่าทันไม่ทำตามการออกแบบชักจูงของต่างชาติ บ้านเมืองก็จะไม่วิกฤตแย่ลงไปมากกว่านี้อีก

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo