บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งยกเลิกเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-โอซากา ประเทศญี่ปุ่น จากกำหนดเดิมคือวันที่ 11 กันยายน 2561 ต่อไปจนถึงวันที่ 13 กันยายน 2561 พร้อมช่วยเหลือผู้โดยสารโดยขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสารจนถึงวันที่ 20 กันยายน 2561
เรืออากาศเอก ปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบินบริษัท การบินไทย กล่าวว่าท่าอากาศยานคันไซ เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับผลกระทบจากพายุเชบีอย่างหนัก ประกาศปิดบริการต่อจนถึงวันที่ 13 กันยายน 2561 บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องขอแจ้งยกเลิกเที่ยวบิน ไป-กลับ เส้นทาง กรุงเทพฯ-โอซากา จากกำหนดเดิมวันที่ 11 กันยายน 2561 ต่อไปอีกจนถึงวันที่ 13 กันยายน 2561 ดังนี้
1. เที่ยวบินที่ ทีจี 672 ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 08.25 น.ถึงท่าอากาศยานคันไซ เวลา 15.55 น. (เวลาท้องถิ่น)
2. เที่ยวบินที่ ทีจี 673 ออกจากท่าอากาศยานคันไซ เวลา 17.35 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 21.25 น.
3. เที่ยวบินที่ ทีจี 622 ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 23.30 น. ถึงท่าอากาศยานคันไซ เวลา 07.00 น. ของวันรุ่งขึ้น (เวลาท้องถิ่น)
4. เที่ยวบินที่ ทีจี 623 ออกจากท่าอากาศยานคันไซ เวลา 11.45 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 15.35 น.
ทั้งนี้ บริษัทได้ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวก โดยขยายเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสารจนถึงวันที่ 20 กันยายน 2561 สำหรับผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารการบินไทยในเส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-โอซากา ที่ระบุวันเดินทางระหว่างวันที่ 3-20 กันยายน 2561 ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนเส้นทางบินเป็นเส้นทางอื่นภายในประเทศญี่ปุ่นที่เป็นจุดบินของการบินไทย ได้แก่ โตเกียว (ท่าอากาศยานนาริตะ/ฮาเนดะ) นาโกยา ฟุกุโอกะ ซัปโปโร โดยจะสามารถเปลี่ยนแปลงการเดินทางได้ ภายในวันที่ 20 กันยายน 2561
ทั้งนี้ จะเป็นไปภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ผู้โดยสารสามารถติดต่อทำการเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสารได้ที่สำนักงานขายการบินไทย หรือ THAI Contact Center โทร. 0-2356-1111 หรือตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารของการบินไทย
อย่างไรก็ดี บริษัทได้เพิ่มหมายเลขโทรศัพท์พิเศษชั่วคราว เพื่อดูแลผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสาร เส้นทาง กรุงเทพฯ-โอซากา ติดต่อได้ที่หมายเลข โทร. 0-2356-1166 และที่ญี่ปุ่น (Japan Call Center) หมายเลข 0570-064-015 โดยบริษัท จะติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ดังกล่าวจากท่าอากาศยานคันไซอย่างใกล้ชิด
