Entertainment

ต่าย อรทัย อัปเดตสถานะหัวใจ สัมพันธ์คู่จิ้น ไผ่ พงศธร เผยความรู้สึกหลังสูญเสียคุณยาย

นักร้องขวัญใจใครหลายคน ต่าย อรทัย อัปเดตความรู้สึกหลังสูญเสียคุณยาย เพราะพิษโควิด-19 ทำให้ไม่ได้ไปดูใจคุณยายก่อนตาย แถมงานหด รายได้หาย ชวดเงินไปหลายล้านบาท ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์, ชมพู่ ก่อนบ่าย และตั๊กแตน ชลดา เป็นพิธีกร เรื่องสถานะหัวใจก็ยังไม่แน่นอน กลัวขึ้นโสดตลอดชีวิตเอามากๆ

11 ต่ายอรทัย 1

เมื่อเดือนเมษายน คุณต่ายได้เสียคุณยายทองคำ อายุ 107 ปี ตอนนี้ทำใจได้หรือยัง?

ต่าย : ถ้าไม่มีคนมาถามก็ไม่เป็นไร มันจะรู้สึกจุกเพราะเป็นคนที่เราผูกพันธ์มาก เหมือนเป็นคุณแม่อีกคนหนึ่งก็ได้

เห็นว่าตอนคุณยายจะเสีย พี่ต่ายไม่มีโอกาสร่ำลาเลยเหรอ?

ต่าย : ไม่ได้อยู่กับท่าน ตอนวันที่คุณยายจะจากพวกเราไป แต่จริงๆ ก่อนหน้านั้นต้นปี เมื่อ ก.พ.-มี.ค. ยายเข้าโรงพยาบาล เนื่องจาคโรคชรา ก็จะส่งสัญญาณนู่นนี่นั่น ทานข้าวไม่ได้ ความดันขึ้น หายใจไม่ออก ช่วงนั้นทัวร์คอนเสิร์ตได้กลับขึ้นไปเยี่ยมคุณยายที่โรงพยาบาล พอดีขึ้นก็กลับมาอยู่ที่บ้านรักษาตัว ช่วงเมษายนเริ่มเหนื่อยอีก ทางบ้านก็ช่วยให้ท่ออ็อกซิเจนให้คุณยายหายใจ แต่ก่อนหน้านั้น 2 วันที่คุณยายจะจากไป คุณแม่ตัดสินใจโทร.มาก็เลยคุยกัน ไม่เคยได้ยินเสียงคุณยายหายใจดัง คุณยายพูดไม่ได้แล้วแต่ได้ยินทุกอย่าง

เห็นว่ามีวินาทีที่พี่ต่ายได้ยินลมหายใจเฮือกสุดท้ายของคุณยายด้วย?

ต่าย : ใช่ค่ะ

ใจหายไหม?

ต่าย : ก็สตั้นอยู่เหมือนกัน ทั้งๆ ที่เราทำใจแล้ว

11 ต่ายอรทัย 7

วันตั้งศพคุณยายก็ติดโควิดไม่มีโอกาสได้ไป?

ต่าย : ไม่ได้ไปเลย 15 เมษายน เป็นวันที่ทุกคนออกจากบ้านไม่ได้ เราต้องไปตรวจสุขภาพ ถามทุกทางเลย ก็ปรึกษา กลับไม่ได้นะลูก ถ้ากลับไปก็ต้องกักตัว 14 วัน สุดท้ายก็ต้องทำบุญที่กรุงเทพฯแทน

ความรู้ตอนนั้นเป็นยังไง รักท่านมาก แต่ไปร่วมงานไม่ได้ เสียใจไหม?

ต่าย : เสียใจอยู่บ้านที่กรุงเทพฯท ทำอะไรไม่ได้จริงๆ ได้แต่ทำใจยอมรับ สุดท้าย 100 วันก็ต้องเก็บสรีระคุณยายไว้ที่วัดตามเจตนารมณ์ของคุณยาย

สุดท้ายคุณต่ายได้ไปไหม?

ต่าย : มีเดือนมิถุนายนที่เริ่มปลดล็อกแรกได้ไปประมาณวันที่ 27 ไปทำบุญ จะมี 1 วันใน 1 เดือนที่มีการทำบุญใหญ่ครั้งหนึ่ง แล้วก็ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นพิธีฌาปนกิจศพคุณยายอย่างเป็นทางการ

ตอนนี้จิตสงบหรือยัง?

ต่าย : ก็ดีมากขึ้นก็มีบางช่วง บางตอน บางเวลา บางทีก็ร้องไห้ คิดถึง

11 ต่ายอรทัย 13

วันเผาพี่ต่ายมีโอกาสได้อ่านกลอนให้กับคุณยายด้วย อ่านทั้งน้ำตาด้วย?

ต่าย : ตอนนั้นบอกไม่ถูกเหมือนกัน มันอัดอั้นอยู่ลึกๆ ยิ่งอ่านก็ยิ่งร้องไห้

พี่ต่ายสนิทกับคุณยายแทบจะสนิทมากกว่าคุณแม่ด้วยซ้ำ?

ต่าย : เห็นคุณยายตั้งแต่เกิด แล้วคุณพ่อกับคุณแม่แยกทางกัน คุณแม่ต้องหาเงินส่งให้ลูกเรียน คุณพ่อก็ยังทำหน้าที่ แค่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็มีคุณยายมาทำหน้าที่ ก็อยู่ในช่วงที่เรารู้สึกเหงา ก็มีคุณยายนี่แหละที่สนิท คุณแม่ก็สนิท

จริงๆ ร้องเพลงมาเยอะมาก แต่มีอยู่เพลงนึงที่ร้องกี่ครั้งก็มาพร้อมน้ำตา ร้องไม่จบ?

ต่าย : ฝากเพลงถึงยาย ครูสลาแต่งไว้ 3 ปีกว่าครูจะแต่งจบ มันร้องไปสักพักมันก็เริ่มจุกขึ้นมา เหมือนเราจะบอกท่านทุกคว่ายายดีใจไหมที่วันนี้เราทำทุกอย่างแล้ว ยายโอเคไหม เราได้ออกทีวี ดีใจหรือเปล่า

ตอนนี้คิดว่ายายภูมิใจกับเราหรือยัง?

ต่าย : เคยถามนะคะ หลายๆ คนไปสัมภาษณ์คุณยาย ยายบอกดีใจ ชีวิตมันก็ดีขึ้น หลานดูแลดี ได้ทำบุญ ทำอะไรอย่างที่อยากทำ

11 ต่ายอรทัย 11

อยากบอกอะไรกับคุณยาย?

ต่าย : เท่าที่ทราบ พอเป็นศิลปินแล้ว สัมผัสได้ว่าท่านทำในสิ่งที่ท่านตั้งใจ ได้สานต่อเจตนารมณ์ของคุณยายในช่วงที่ท่านยังอยู่ ก็ดีใจมากแล้ว ก็บอกคุณยายตลอดก่อนที่คุณยายจะเสียว่าไม่ต้องห่วงอะไรใดๆ แต่วันนี้ก็เหมือนกันถ้าคุณยายรับทราบ ไม่ต้องห่วงอะไรจริงๆ

ไม่ใช่แค่เรื่องคุณยายที่ทำให้คุณต่ายท้อ ไม่รู้ไปทำอะไรมา เสียเงินเป็นล้านเลยหรอ?

ต่าย : น่าจะเจอเหมือนกัน ช่วงโควิดนี่แหละ ปลายปี ต้นปี เราทำโชว์มันเป็นอะไรที่หล่อเลี้ยง เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรามีรายได้ เลี้ยงตัวเอง ทีมงาน ครอบครัว เราก็หวังว่ามีนาคม-เมษายน จะเอาทุนคืน สุดท้ายก็ไปหมดเลย เพราะโควิด

ตอนนั้นเครียดระดับไหน?

ต่าย : มันก็เครียดจนไม่รู้จะไปยังไงต่อ ไปต่อไม่เป็นเหมือนกัน อยู่ดีๆ เหมือนมีอะไรมาทุบหัว เป็นปีที่ไม่ใช่แค่เราเอาทุนคืนไม่ได้จากการทำโชว์ มันเป็นปีที่เรารีโนเสทบ้าน มันบวกเข้าไปอีก เราตกลงกับช่างไว้แล้ว เริ่มลงเสา นู่น นี่นั่น ค่าใช้จ่ายตายตัวมันก็คือตายตัวจริงๆ เราไปลดไม่ได้ ความรู้สึกมีแต่เงินออกอย่างเดียวไม่มีอะไรเข้ามา

ที่บอกว่าค่าใช้จ่ายตายตัว นี่เท่าไหร่?

ต่าย : มันก็หลักแสนอยู่แล้ว

11 ต่ายอรทัย 8

ปีนี้ถือว่าหนักสุดไหม?

ต่าย : หนักเหมือนกัน แต่คงไม่ใช่มีแค่เรามั้ง เพราะเราเห็นชัวิตคนอื่นผ่านสื่อ ผ่านอะไร บางคนไม่สามารถเริ่มต้นอะไรได้อีกเลย เราไม่ได้เจอคนเดียว มันเป็นแรงผลักให้เรา ยังมีเพื่อนเนอะ ก็ช่วยได้เยอะอยู่

พี่ตายจะเปลี่ยนลุคบ้างไหม?

ต่าย : อยากจะบอกว่าก่อนที่เราจะแอกอัลบั้มชุดแรก เราแต่งตัวทุกสไตล์มาหมดแล้ว จะเป็นสายเดี่ยว กระโปรงสั้น สุดท้ายมันไม่คือ มันไม่ได้ ไม่เข้ากับบุคลิกของเรา

คุณต่าย โสดหรือไม่โสด?

ต่าย : ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าสถานะอะไร แต่ขอให้มันชัวร์ๆ ก่อนดีกว่า

มีคนคุยอยู่?

ต่าย : แบบเพื่อนค่ะ ไม่ซีเรียส ยังไม่แต่งงาน

11 ต่ายอรทัย 12

ที่เห็นเป็นคู่จิ้นกับคุณไผ่ไม่ใช่?

ต่าย : คู่จิ้นก็คือคู่จิ้นค่ะ

คู่จริงเขามีอยู่แล้ว เรียกว่าแฟนได้ไหม?

ต่าย : ยังไม่ถึงขนาดนั้น ต้องใช้เวลา อีกนานกว่าเราจะบอกได้ว่าเป็นอะไรจริงๆ

คนนี้คุยกันมาได้นานเท่าไหร่แล้ว?

ต่าย : จริงๆมันไม่ถึงขนาดคุย ก็เริ่มจากการทำงานนี่แหละ คุยกันเป็นเพื่อนเริ่มสนิทมากขึ้น ก็เริ่มจากตัวเขาก่อน คุยพิเศษมากขึ้น ถ้านับจริงๆรวมตั้งแต่เริ่มรู้จักกัน เริ่มเข้ามาช่วยงานกันก็สองปี

แสดงว่าถ้าเกิดเราจะเลือกคู่เนี่ย เราใช้เวลานานมากในการเลือกใช่ไหม?

ต่าย : มันไม่ได้เริ่มจากการอยู่ดีๆ มาจีบเป็นแฟน มันเกิดจากเรามีปัญหาเรื่องงาน แล้วเราหาที่ปรึกษา พอช่วยงานก็ยังเป็นเพื่อนร่วมงานกัน หลังจากนั้นก็เป็นเพื่อนจริงๆ สนิทแล้วก็ พยายามจะขยับสถานะ เราก็ต้องดูท่าทีกันก่อนนิดนึงว่ามันจะไปด้วยกันได้แค่ไหน

11 ต่ายอรทัย 3

แล้วเขาต้องทำยังไง?

ต่าย : ก็ต้องดูกันไป ต้องศึกษากันไป

ตอนนี้เปิดใจไหมถ้ามีคนมาจีบ?

ต่าย : ไม่ได้ปิดค่ะ ต่ายมองว่าเรื่องอย่างนี้ มันเป็นเรื่องของหัวใจ ไม่ใช่เลือกซื้อของไม่ได้อันนี้เราเลือกอันนี้ แต่มันเป็นเรื่องของจิตใจของเราด้วยของเขาด้วย

เห็นบอกมาว่าพี่ต่ายอยากแต่งงานมาก?

ต่าย : เราก็ขนาดนี้แล้ว แล้วลูกผู้หญิงด้วย เจอคำหนึ่งของคุณแม่ เมื่อ 4-5 ปีย้อนหลังไปก็คุยๆ ประมาณว่าแบบ อยากให้เรามีใครสักคนดูแล อยากให้มีลูก

พี่ต่ายมีสเปคไหม?

ต่าย : ไม่เคยตอบเรื่องสเปคเลย ขอแค่เป็นคนหนึ่งที่เราอยู่แล้วปลอดภัย เราสบายใจ คบกันแล้ว เราจูนกันได้ พัฒนาไปเจอแต่เรื่องดีๆ

ติดตามรับชมรายการคุยแซ่บShow ย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

YOU MAY ALSO LIKE

Avatar photo