ครม.ไฟเขียว! ค่าตอบแทน “อสม.” เบื้องต้น 7 เดือน ด้าน “บิ๊กตู่” แจงทำความเข้าใจ “หมอหนู” แล้ว พร้อมเร่งรัดจ่ายเงิน 7 เดือนแรกให้เร็วที่สุด
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. มีมติอนุมัติ โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงานของ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม โรคติดเชื้อไวรัสโควิด ในชุมชนของ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นค่าตอบแทนให้ อสม. และ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) รวมจำนวนไม่เกิน 1,054,000 คนต่อเดือน
โดยมีผลตั้งแต่เดือน มีนาคม – กันยายน 2563 รวมทั้งสิ้น 7 เดือน กรอบวงเงินไม่เกิน 3,622 ล้านบาท ซึ่งใช้จากกรอบเงินกู้ 45,000 ล้านบาท ของกระทรวงสาธารณสุข
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในที่ประชุมว่า เรื่องนี้เป็นการอนุมัติเพียงรอบแรก แต่จะยังดูแล อสม. ต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่โควิด ยังไม่หยุดระบาด โดยจะมีการพิจารณาต่อไปเรื่อยๆ ดังนั้น ขอให้อสม.สบายใจได้ว่า นายกรัฐมนตรี และ รัฐบาลจะดูแล อสม. อย่างดีที่สุด เหมือนที่ อสม.ดูแลคนไทย
ในส่วนของการจ่ายเงินนั้น นายกรัฐมนตรีจะเร่งรัดให้มีการจ่ายเงินให้เร็วที่สุด โดยจะแบ่งการจ่ายเงินออกเป็น 2 ช่วง คือ เดือน มีนาคม – มิถุนายน จะจ่ายรวดเดียว 4 เดือน จำนวนเงิน 2 พันบาทต่อคน ส่วนเดือน กรกฎาคม – กันายน จะจ่ายค่าตอบแทนให้เป็นรายเดือน
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ให้ 7 เดือนก่อนนั้น เพื่อเป็นบรรทัดฐานเดียวกันกับบุคลากรสาธารณสุขอื่นๆ ตามหนังสือกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 กระทรวงการคลังได้กำหนดหลังเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินพิเศษสำหรับบุคลากรสาธารณสุข ให้ผู้ปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ได้ทำความเข้าใจกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ว่า ยืนยันที่จะดูแล อสม. ทั่วประเทศต่อไป ซึ่งหมายถึง หากไปกำหนดระยะเวลาช่วยเหลือที่นานเกินไปอาจจะไม่เหมาะสม ในเรื่องของการบริหารงบประมาณ
“จะเร่งรัดจ่ายเงิน 7 เดือนแรกให้เร็วที่สุด และแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดจะมีอยู่ หรือ การแพร่ระบาดหมดแล้ว ก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมรับการท่องเที่ยว นักธุรกิจ รวมถึงแรงงานที่เข้ามาก็จำเป็นต้องใช้กลไก อสม. ดังนั้นตนยินดีที่จะให้ค่าตอบแทนเป็นพิเศษ อาจจะยาวนานกว่าเดิม แต่ตอนนี้ คงต้องขอที่ช่วยเหลือในส่วน 7 เดือนก่อน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ผิดสัญญา แต่ต้องใช้เงินกู้อย่างระมัดระวัง รับมือกับการระบาดรอบที่สอง หากมีสถานการณ์เกิดขึ้น รวมถึงการวิจัยพัฒนาวัคซีน ที่มีความคืบหน้าทั้งในประเทศและความร่วมมือต่างประเทศ โดยไทยต้องเตรียมรายละเอียดในการผลิตวัคซีนไว้ รวมถึงมีชุดป้องกันโควิด ที่เตรียมพัฒนาใช้ในประเทศ และส่งออกขายต่างประเทศได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อสม.ถึงทำเนียบฯ ให้กำลังใจ ‘อนุทิน’ สนับสนุนค่าเสี่ยงภัย 500 บาท/เดือน
- ‘อนุทิน’ วอนสภาพัฒน์ฯเห็นใจ ขอค่าตอบแทนอสม.คุมโควิด – เสนอตัดงบโครงการอื่น
- ‘สภาพัฒน์’ แจงข้อเท็จจริงกรณีเงินเพิ่มพิเศษของ ‘อสม.’