Digital Economy

3 เหตุผล ทำไมธุรกิจ ‘พิซซ่า’ กลายเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี

000 UY0AA 2017 12 07 21 56 11

หากจะเอ่ยถึงธุรกิจฟู้ดเชนที่ปรากฏเป็นข่าวในระยะ 2 – 3 ปีที่ผ่านมาอยู่บ่อยครั้งในด้านการปรับตัว หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นธุรกิจพิซซ่า ซึ่งจากวันนั้นจนถึงวันนี้ พิซซ่าที่เรารู้จักกันนั้น ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือไปแล้วอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง

ส่วนสาเหตุที่ทำให้พิซซ่าต้องปรับตัวในวันที่อีกหลายธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหารยังไม่ขยับจะมีอะไรบ้างนั้น เราขอชวนไปติดตามกันเลย

1. ภาพลักษณ์ของพิซซ่าคือความสะดวกสบาย

ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า ชาวเจเนอเรชัน Y คือลูกค้ากลุ่มหลักของธุรกิจพิซซ่าทุกวันนี้ ซึ่งชาวเจเนอเรชัน Y นั้นมีอีกชื่อหนึ่งพ่วงมาด้วย นั่นคือ Convenience Generation ดังนั้น จึงไม่แปลกหากธุรกิจพิซซ่าพยายามจะทำให้การซื้อพิซซ่าสะดวกสบายมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้ เชนพิซซ่าหลาย ๆ แห่งจึงต้องปรับตัวสู่โลกออนไลน์ และนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ในที่สุด

การใช้เทคโนโลยี ช่วยลดความยุ่งยากในการสั่งพิซซ่าลงได้มาก เพราะลูกค้าสามารถเลือกหน้าพิซซ่าได้เองตามต้องการ (ภายใต้เงื่อนไขของระบบ) รวมถึงการใช้เทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดส่งสินค้า และระบบหลังบ้านที่จะช่วยรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้อีกต่อ เหล่านี้ช่วยทำให้แบรนด์เข้าถึงใจกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบความสะดวกสบายได้อยู่หมัด

2. ถ้าคุณไม่เปลี่ยน คู่แข่งก็จะเปลี่ยนก่อน

นอกจากซีอีโอของฟอร์ด มอเตอร์ ที่ออกมาบอกว่า ฟอร์ดคือ Tech Company แล้ว ซีอีโอของโดมิโนพิซซ่า ก็คืออีกคนหนึ่งที่ออกมาบอกว่า โดมิโนพิซซ่าเป็น Tech Company เช่นกัน

การใช้ดิจิทัลในธุรกิจพิซซ่าเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่น ปาป้าจอห์น ที่ออกมายอมรับว่า ยอดขายของธุรกิจมาจากดิจิทัลแล้วกว่า 60% หรือการที่โดมิโนพิซซ่า จับมือกับฟอร์ด เพื่อทดสอบการให้บริการรถอัจฉริยะส่งพิซซ่า ก็เกิดขึ้นมาแล้ว

3. การปรุงพิซซ่าด้วยเอไอและระบบอัตโนมัติ

การมาถึงของเอไอยังทำให้แบรนด์ที่ปรับตัวรับดิจิทัลแล้วก้าวไกลมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Zume Pizza ที่นำแขนกลและเอไอมาช่วยในการปรุงพิซซ่าตั้งแต่ต้นจนจบ โดยมีรายงานว่า ไลน์การผลิตของ Zume นั้นสามารถผลิตพิซซ่าได้ถึง 370 ชิ้นต่อชั่วโมง และสามารถทำออเดอร์ต่าง ๆ ได้ภายใน 5 – 20 นาทีเท่านั้น

การอยู่รอดของเมนูพิซซ่าในโลกทุกวันนี้ได้จึงไม่ใช่เรื่องของความดวงดี หรือโชคชะตา แต่เป็นการกระโดดลงไปในสนามที่ (ในขณะนั้น) ซีอีโอของบริษัทเองก็ยังไม่แน่ใจว่ามันจะเกิดผลในทางบวกกับบริษัทหรือไม่ แต่จนถึงตอนนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องยกนิ้วให้กับการตัดสินใจนั้นกันแล้ว เพราะหากดูมูลค่าหุ้นของโดมิโนพิซซ่าในปี 2551 เทียบกับปีนี้ ก็จะพบว่า มันเพิ่มขึ้นกว่า 5,000% เลยทีเดียว

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight