Politics

ประกาศเคอร์ฟิวอีกรอบแน่ ‘บิ๊กตู่’ ขู่ หลังพบกลุ่มเด็กแว้นรวมตัวแข่งซิ่ง

ประกาศเคอร์ฟิวอีกรอบแน่ “บิ๊กตู่” ขู่หลังพบกลุ่มเด็กแว้นรวมตัวแข่งซิ่ง ชี้แม้ไม่มีเคอร์ฟิวต้องถูกจับกุม และดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถือเป็นการสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง มาตรการคลายล็อกระยะ 4 ว่า ประชาชนต้องร่วมมือกัน ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา(14 มิ.ย.) พบว่า มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นออกมารวมตัวกันเพื่อแข่งรถจักรยานยนต์ คือ มีกลุ่มคนที่ไม่ให้ความร่วมมือ เพราะฉะนั้นสังคม และผู้ปกครองต้องช่วยกัน ไม่เช่นนั้นหากยังเป็นเช่นนี้ ถ้าทุกคนไม่รู้จักควบคุมตัวเอง จะกลับมา ประกาศเคอร์ฟิว ใหม่

ขณะเดียวกัน มองว่า เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ต้องควบคุมดูแลกรณีที่เด็กวัยรุ่นออกมาแข่งรถจักรยานยนต์ แม้ว่าจะไม่มีการ ประกาศเคอร์ฟิว ก็ต้องถูกจับกุม และดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถือเป็นการสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น รวมถึง จะมีความผิดเรื่องการแพร่ระบาดโรค ซึ่งวันนี้ยังประกาศใช้ “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” อยู่ ให้เจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนจากด่านเคอร์ฟิวเป็นด่านจับกุมเด็กวัยรุ่นแทน

ประกาศเคอร์ฟิว

ในส่วนของสถานประกอบการทั้งหมด ต้องช่วยกันดูแลตามมาตรการผ่อนคลายของรัฐ อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณบางผู้ประกอบการที่มีมาตรการเพิ่มเติมอีก ถือเป็นการช่วยชาติ ช่วยประชาชนและธุรกิจตัวเองด้วย ทุกอย่างต้องมีสองทางเสมอ โดยรัฐบาลทำในระดับนโยบายตามลำดับจนสถานการณ์ดีขึ้น ทุกอย่างอยู่ที่ความร่วมมือของประชาชนใช่หรือไม่ เพราะหากผ่อนปรนไปแล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ทุกอย่างต้องกลับเข้าสู่ที่เดิม สิ่งที่ตนเป็นห่วง คือ ไม่อยากให้ทุกอย่างกลับสู่ที่เดิม เพราะจะเกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจและสุขภาพ

“เมื่อผ่อนคลายระยะ 4 แล้ว สถิติการการแพร่ระบาดในแต่ละวัน จะเพิ่มขึ้นหรือไม่ วันนี้ยังโชคดีที่พบว่า เป็นการแพร่ระบาดจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานที่กักกันตัวของรัฐ หรือ State Quarantine ที่รัฐตั้งขึ้นมาเพื่อดูแล จึงสามารถควบคุมได้ โดยในช่วงแรกประชาชนยังไม่ได้รับความร่วมมือ แต่วันนี้ได้เห็นประโยชน์ว่า ที่ทำไปแล้วได้ผลดีอย่างไร ทุกอย่างอาจจะไม่เสรี 100% เพราะด้วยข้อจำกัดด้านสุขภาพ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ประกาศเคอร์ฟิว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ว่า ต้องแบ่งเป็นสองส่วน คือ การท่องเที่ยวในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา พื้นที่ที่จะเปิดพื้นที่ให้ท่องเที่ยว ซึ่งตนได้ให้แนวทางของการกำหนด Travel Bubble หรือ ระเบียงท่องเที่ยว เพื่อกำหนดกรอบพื้นที่การท่องเที่ยว ของการท่องเที่ยวในประเทศ ที่ต้องดูทั้งที่เป็นเมืองหลัก เมืองรอง ความพร้อมของแต่ละพื้นที่ ที่ต่างต้องมีมาตรการให้เกิดความปลอดภัย

ขณะเดียวกัน ต้องมีความชัดเจนว่า จะสามารถท่องเที่ยวพื้นที่ใดและต่อเนื่องไปยังพื้นใดอีกได้บ้าง เช่นเดียวกับการให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาได้ โดยจะต้องจัดรูปแบบการท่องเที่ยว ภายใต้การควบคุมมาตรฐานสาธารณสุข อย่างรอบคอบ การกำหนดพื้นที่ปลอดภัย การกำหนดจำนวนคน กำหนดเที่ยวบิน และการใช้รูปแบบ Alternative State Quarantine (ASQ) หรือ โครงการพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐทางเลือก 14 วัน รวมถึงการทำความร่วมมือระหว่างเมืองต่อเมือง

“ทุกคนที่จะเที่ยวต้องดูแลตัวเอง ทั้งเรื่องของการเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย เพราะทุกคนต้องช่วยและร่วมมือกัน เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นก็ต้องหยุดเรื่องนี้ไว้อีก ส่วนเรื่องการออกแพคเก็จท่องเที่ยว อยู่ระหว่างการหารือของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตนให้แนวทางไปแล้ว ขอรอติดตามความชัดเจนการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

อย่างไรก็ตาม วานนี้ (14 มิ.ย.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณพี่น้องคนไทยทุกคน ที่มีระเบียบวินัย เข้มแข็งและอดทน ร่วมกันต่อสู้ต่อและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา จนทำให้ประเทศไทยฟื้นตัวดีสุด ติดอันดับ1 ของเอเชีย อันดับ 2 ของโลก โดยดัชนีโควิด-19 โลก หรือ Global COVID-19 Index (GCI) ซึ่งพัฒนาขึ้นมาโดยสมาคม PEMANDU ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาเลเซีย (MOSTI) และกลุ่มบริษัทซันเวย์ ดำเนินการจัดอันดับ 184 ประเทศ ที่มีการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ได้ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม ผลการจัดอันดับดังกล่าว พบว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 1 ของเอเชีย และอันดับที่ 2 ของโลก การจัดอันดับจาก 184 ประเทศ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยได้คะแนนทั้งหมด 83.32 คะแนน จากทั้งหมด 100 คะแนน ส่วนอันดับ 1 เป็นของประเทศออสเตรเลียได้ 86.34 คะแนน

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ผลจากการจัดอันดับข้างต้น นายกรัฐมนตรีขอขอบคุณพี่น้องคนไทยทุกคน ทุกภาคส่วน ที่มีระเบียบวินัย เข้มแข็งและอดทน ร่วมกันต่อสู้ต่อและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา จนเป็นตัวอย่างประจักษ์แก่สายตาชาวโลก ทำให้ประเทศไทยได้คะแนนอันดับ 2 จากการการฟื้นตัวดีที่สุดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลทราบดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน แต่ทุกฝ่ายก็ได้ร่วมมือกันเป็นอย่างดีที่จะให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo