The Bangkok Insight

‘ดีเอสไอ’ สรุปสำนวนคดี Forex-3D ส่งถึงมืออัยการแล้ว พบ 7 ดาราดังเอี่ยวคดี

สำนวนคดี Forex-3D ‘ดีเอสไอ’ สรุปพร้อมส่งถึงมืออัยการแล้ว พบ 7 ดาราเอี่ยวคดี หลอกลวงให้ลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ (Forex-3D) เสียหายเกือบ 2 พันล้าน

นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองอธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ร่วมแถลงข่าวว่า สำนวนคดี Forex-3D หรือสำนวนคดีพิเศษกรณีหลอกลวง ให้ลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ (Forex-3D) คดีนี้ถือเป็น 1 ใน 2 คดีที่มีเอกสารมากในการทำคดีมากที่สุดตั้งแต่เปิดกรมมาคือจำนวน 196,444 แผ่น 434 แฟ้ม 74 ลัง รวม 4 คันรถกระบะ โดยมีความเห็นสั่งฟ้อง นายอภิรักษ์ โกฎธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อาร์เอ็มเอส แฟมิเลีย จำกัด กับพวกเป็นผู้ต้องหาที่ 1-4 ให้สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ

สำนวนคดี Forex-3D

แฉวิธีการหลอกลวง Forex-3D

นายไตรยฤทธิ์ กล่าวว่า คดีนี้ตัวการหลัก คือ นายอภิรักษ์ โกฎธิ กับพวก มีพฤติการณ์คือ ใช้เว็บไซต์ www.forex-3D.com เป็นช่องทางในการหลอกลวงโฆษณา ชักชวนประชาชนทั่วไปให้นำเงินไปลงทุนซื้อขาย อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ (Forex) โดยเสนอผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 60 – 80 ของเงินผลกำไรที่ได้จากการเทรด Forex และประกันเงินต้นที่ร่วมลงทุนร้อยละ 100 อีกทั้งยังมีการชักชวน ผ่านระบบแนะนำสมาชิก หากสมาชิกรายใดสามารถชักชวนบุคคลอื่นมาร่วมลงทุน จะได้รับผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 1-5 ของผลตอบแทนของสมาชิกรายใหม่ ที่ชักชวนมาร่วมลงทุน ทำให้มีผู้หลงเชื่อ และร่วมลงทุนจำนวนมาก

สำนวนคดี Forex-3D

คดีนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ รวบรวมพยานหลักฐานกว่า 7 เดือน เศษ นับตั้งแต่รับเป็นคดีพิเศษ เมื่อตุลาคม 2562 มีการสอบสวนปากคำผู้เสียหายจากการลงทุนจำนวน 8,436 คนจากลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ไว้กว่า 14,000 ราย มูลค่าความเสียหายรวมจำนวน 1,908,113,421.92 บาท ล่าสุดสามารถยึดอายัดทรัพย์ สินเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เป็นบ้าน ที่ดิน รถหรู รวมมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท

โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 ราย ตอนนี้อยู่ระหว่างฝากขัง และเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนิน การออกหมายจับ นายอภิรักษ์ ซึ่ง หลบหนีไปต่างประเทศ และดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแก่บุคคล และนิติบุคคลที่ร่วมกระทำความผิด รวมจำนวน 4 ราย แบ่งเป็น บุคคล 2 ราย คือ นายอภิรักษ์ และบุคคลใกล้ชิด ที่ทำงานกับนายอภิรักษ์ ส่วนอีก 2 ราย เป็นนิติบุคคล

สำนวนคดี Forex-3D

ด้าน นายปิยะศิริ กล่าวว่า ดีเอสไอตั้งทีมเฉพาะกิจไล่ล่าติดตามจับกุม นายอภิรักษ์ ล่าสุด มีข้อมูลว่านายอภิรักษ์ อาจหลบหนีเข้ามาในประเทศบริเวณชายแดนโดยอาศัยช่องทางธรรมชาติ แต่เมื่อตรวจสอบยังไม่พบข้อมูล ขณะนี้ได้ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อติดตามจับกุมอย่างต่อเนื่อง

สำนวนคดี Forex-3D มีดาราเกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 7 ราย

นอกจากนี้ ดีเอสไอ ยังดำเนินการในความผิดฐานฟอกเงิน แยกอีกต่างหาก คาดว่าจะมีผู้ต้องหาไม่ต่ำกว่า 20 ราย โดยเฉพาะครอบครัวของนายอภิรักษ์ และคาดว่าจะมี ดาราศิลปินที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ไม่ต่ำกว่า 7 ราย ซึ่งบุคคลที่ได้รับเงิน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับ ทรัพย์สินที่ได้ไปจาก นายอภิรักษ์ ต้องเข้ามาชี้แจงกับดีเอสไอ คาดว่าจะสรุปสำนวนคดีฟอกเงินได้ภายใน 3 เดือน ทั้งนี้ วงเงินความเสียหายในคดีฟอกเงินยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เนื่องจากกลุ่มบุคคลดังกล่าวมีการทำธุรกรรมหลายธนาคาร

โดยเช้าวันนี้ ได้ส่ง สำนวนคดี Forex-3D ให้อัยการพิเศษ สั่งฟ้องนายอภิรักษ์กับพวก เป็นความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 12 มาตรา 15 ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3 มาตรา 14 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

S 16711746

ส่วนกรณีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายอภิรักษ์ และรับทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง กับการกระทำความผิด ได้ดำเนินการสำหรับความผิด ตาม พ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำการแยกสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษเป็นอีกคดีหนึ่ง

ขณะเดียวกันในส่วนของ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ดำเนินการยึดทรัพย์คดีนี้ไปแล้วกว่า 500 ล้านบาท อยู่ระหว่างดำเนินการในคดีแพ่ง เพื่อคืนทรัพย์สินบางส่วนให้กับผู้เสียหาย โดยจะประสานข้อมูลร่วมกับดีเอสไอ คาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 7 ปี ทั้งนี้ นายปิยะศิริ ฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อผู้ที่มาหลอกร่วมลงทุนโดยอ้างว่ามีบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ต่างประเทศ

เพจเฟซบุ๊ก รวบรวมผู้โดนโกง จาก Forex 3d

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight