Properties

ไรมอนแลนด์ลงทุนเคพีเอ็น 7.7 พันล้านต่อยอดธุรกิจ

ADrein Lee
นายเอเดรียน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน)

นายเอเดรียน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML เปิดเผยว่าคณะกรรมการบริษัท อนุมัติให้เข้าลงทุนในทรัพย์สินของบริษัท เคพีเอ็น แลนด์ จำกัด (KPNL)ซึ่งประกอบด้วย โครงการ S19 ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เนื้อที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 1 ไร่ 8 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท ซอย19 และ โครงการ S28 ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เนื้อที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 2 ไร่ 16.4 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท ซอย 28 ซึ่งทางบริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้เชิงพาณิชย์ได้ในปี 2566

นอกจากนี้ทางคณะกรรมการบริษัท ยังได้อนุมัติในการเข้าซื้อยูนิตที่เป็นยอดขายรอโอนและยูนิตที่ยังเหลืออยู่จากโครงการ Diplomat 39 และ Diplomat สาทร ตีเป็นมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ส่วนใหญ๋ในปี 2561 รวมแล้วเปฺ็นเงินที่เข้าซื้อสินทรัพย์ของเคพีเอ็นแลนด์ทั้งหมด 7,700 ล้านบาท

นายเอเดรียน กล่าวด้วยว่า เมื่อได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว ทาง KPNL จะส่งตัวแทนของบริษัท จำนวน 2 ท่าน เข้ามาเป็นกรรมการในไรมอน แลนด์ ซึ่งตัวแทนของ KPNL ดังกล่าวจะไม่ใช่ผู้มีอำนาจควบคุมการดำเนินงาน ผู้บริหารชุดปัจจุบันของไรมอน แลนด์ ยังคงบริหารงานและควบคุมการดำเนินงานเช่นเดิม

การจัดทีมบริหารดังกล่าว เพื่อการเติมเต็มการดำเนินงานซึ่งกันและกันเท่านั้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ทั้ง 2 บริษัทเดินไปข้างหน้า พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพดี ให้กับผู้บริโภค สร้างผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับบริษัทฯ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนที่ดี

ทั้งนี้การมีพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ จะเป็นการต่อยอดธุรกิจของบริษัท และช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในการขยายตลาดคอนโดมิเนียมระดับบน เช่น กลุ่มลูกค้า ซึ่งกว่า 50% ของฐานลูกค้า ไรมอน แลนด์ เป็นชาวต่างชาติ ในขณะที่ KPNL มีฐานลูกค้ากว่า 90% เป็นคนไทย ทำให้บริษัทมีฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นการเพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น

นอกจากนี้หลังจากซื้อสินทรัพย์ KPNLมาแล้วทำให้ยอดขายรอรับรู้รายได้ หรือแบกล็อคของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยปีนี้คาดว่าจะมียอดแบกล็อค 6,020 ล้านบาท และ 1.3 หมื่นล้านบาทในปี 2562 และยังทำให้ยอดรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 4,620 ล้านบาทในปี 2561 และ 3,839 ล้านบาทในปี 2562

“การซื้อสินทรัพย์มาบริหารต่อ ทำให้พอร์ตการลงทุนของบริษัทขยายเร็วขึ้น สามารถรับรู้รายได้เร็วขึ้น” นายเอเดรียน กล่าวและว่า ในอนาคตหากพบโครงการที่น่าลงทุน ก็อาจจะเข้าซื้อมาบริหารต่อเช่นเดียวกันนี้ ในส่วนของการพัฒนาโครงการเอง ไรมอนแลนด์ก็จะยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตามความเหมาะสม

กรณีการซื้อทรัพย์สินของ KPNL ครั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้ซื้อบริษัท และไม่ได้เป็นแผนที่เคพีเอ็นต้องการแบ็กดอร์เข้าตลาดแต่อย่างใด ไรมอนแลนด์ ก็ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง

Avatar photo