หมดเวลาเติมน้ำมันถูก ! แนวโน้มราคาน้ำมันขาขึ้นแล้ว หลังหลายประเทศ ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซาอุ-โอเปกพลัส ประกาศลดกำลังการผลิตเพิ่ม นักลงทุนขานรับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ราคาน้ำมันตลาดโลก ทั้งน้ำมันดิบ และสำเร็จรูป น่าจะดิ่งลงต่ำสุด ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา การ enjoy กับราคาน้ำมันถูกของชาวไทย คงจะสิ้นสุดไปตั้งแต่ 30 เมษายน ที่ราคาน้ำมันหน้าปั๊มปรับลด เป็นวันสุดท้าย เพราะหลังจากเข้าเดือนพฤษภาคม ราคาน้ำมันก็ปรับขึ้นชนิดถี่ยิบรวม 6 ครั้งแล้ว ล่าสุดมีผลวันนี้ ( 22 พ.ค.) เหตุแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลก กำล้งผงกหัวขึ้น หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย และประตูเมืองของหลายประเทศกำลังเปิดแง้ม การเดินทางไปมาของผู้คนกำลังเริ่มต้น บวกกับมาตรการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ยืนยันว่า จากการติดตาม สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงตลาดโลก ช่วงวันที่ 11 -17 พฤษภาคม 2563 ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 28.47 และ 26.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 2.71 และ 2.99 ต่อบาร์เรล ตามลำดับ
ซาอุดิอาระเบีย เองก็ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ มีผลเดือน มิถุนายน 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน โอเปกพลัส และประเทศอื่นๆ ก็พร้อมใจ ปรับลดกำลังการผลิต จากนี้คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น จากรัฐบาลในประเทศต่างๆ เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ คาดว่าจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน ประกอบกับนักลงทุนขานรับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น จากมาตรการผ่อนคลายของหลายประเทศทั่วโลก
อย่างไรก็ตามกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2563 จะลดลงราว 9.07 ล้านบาร์เรลต่อวัน มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า 6.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งความต้องการใช้น้ำมัน คาดว่าจะลดลงต่ำสุดในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
สำหรับปริมาณการใช้น้ำมันดิบของจีนในเดือน เมษายน 2563 ปรับเพิ่มขึ้น 11 % เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังความต้องการใช้น้ำมันในประเทศปรับตัวสูงขึ้น จากมาตรการผ่อนคลายการปิดเมือง
ทางด้านราคากลางน้ำมันสำเร็จรูป ตลาดภูมิภาคเอเซีย ในส่วนของน้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 และ 92 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 32.05 และ 29.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากสัปดาห์ที่แล้ว 4.71 และ 3.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตามลำดับ
ส่วนความต้องการใช้น้ำมันเบนซิน ปรับตัวสูงขึ้น หลังหลายประเทศ เริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง ทำให้มีการขับขี่มากขึ้น โดย EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเชิง พาณิชย์ที่สหรัฐ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 252.9 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 1 เดือน
“Insights Global” รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ในยุโรป ที่ Amsterdam-Rotterdam-Antwerp (ARA) สัปดาห์สิ้นสุด 14 พฤษภาคม 2563 ลดลง 0.63 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 10.97 ล้านบาร์เรล
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (10 PPM) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 33.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 1.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปัจจัยสนับสนุน จากการคลายมาตรการปิดเมือง ในหลายประเทศ และกำลังผลิตที่ลดลงจากการลดกำลังการผลิต และการปิดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงกลั่นหลายแห่งในภูมิภาค
ส่วนค่าเงินบาทของไทยก็แข็งค่าขึ้น จากสัปดาห์ที่แล้ว 0.26 บาทต่อดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 32.2835 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ต้นทุนน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 0.91 บาทลิตร ส่วนต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.28 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1.93 บาทต่อลิตร และค่าการกลั่น เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 0.47 บาทต่อลิตร
โดยสรุปแล้ว ราคาน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากรัฐบาลในประเทศต่างๆ เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ คาดว่าจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการที่ซาอุดิอาระเบีย ประกาศลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน มิถุนายน นอกเหนือจากที่ได้ปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงของกลุ่มโอเปก และพันธมิตร หรือโอเปกพลัส
ขณะที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ต่างแสดงท่าทีพร้อมลดปริมาณการผลิตอย่างเร่งด่วน ประกอบกับนักลงทุนขานรับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั่วโลก ที่ถูกผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
- เลี้ยวเข้าปั๊มด่วน!! ปรับขึ้นราคาน้ำมันทุกชนิด 50 สต./ลิตร มีผลพรุ่งนี้
- ‘ดาวโจนส์’ พุ่งแรง ขานรับสหรัฐเปิดเศรษฐกิจ ‘ราคาน้ำมัน’ ทะยานสูง
- ทั่วโลกพร้อมใจลดผลิต ดัน ‘ราคาน้ำมัน’ แตะ 20 ดอลลาร์
