โลกฟุตบอลเกือบมีข่าวสลดเกิดอีกหลังจาก โดเมนิโก้ คริสชิโต้ แบ็กซ้ายดีกรีทีมชาติอิตาลีเปิดเผยว่าเขาขับรถข้ามสะพานมอร์เตอร์เวย์ “ปอนเต้ โมรันดี้” เมืองเจนัว ได้เพียง 10 นาทีก่อนเกิดเหตุถล่ม คร่าชีวิตประชาชน 30 คนเป็นอย่างน้อย
เหตุสะพาน “ปอนเต้ โมรันดี้” ถล่มเกิดขึ้นเมื่อเวลาท้องถิ่น 11.30 น. ของวันอังคารที่ผ่านมา หลังเกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก โดยขณะนั้นมีรถยนต์ราว 30-35 คันกำลังแล่นมาพอดี
กองหลังเจนัว วัย 31 ได้โพสต์วีดีโอผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวก่อนเกิดเหตุ โดยแสดงให้เห็นถึงสภาพอากาศเลวร้ายขณะข้ามสะพานในฐานะผู้โดยสารบนรถส่วนตัว โดยหลังจากเขาขับผ่านสพานไปได้ไม่นานก็เกิดเหตุโศกนาฏกรรมตามมา
หลังทราบเรื่องที่เกิดขึ้น อดีตแข้งเซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ได้ใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางยืนยันความปลอดภัย และแสดงความรู้สึกเสียใจในเวลาเดียวกัน
“ผมเขียนข้อความนี้เพื่อทุกๆ คนที่เขียนถึงผม ห่วงใยผม และครอบครัว”
“พวกเราทุกคนปลอดภัยดี แม้ว่าเราข้ามสะพานนั้นในช่วง 10 นาทีก่อนถล่มลงมา”
“ความอาลัยของผมได้อยู่กับทุกๆ ครอบครัวผู้สูญเสีย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่สะพานบนมอเตอร์เวย์จะร่วงหล่นลงมาแบบนี้–มันเหลือเชื่อ!”
“เราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อประเทศนี้ ผู้คนหนีหายเพราะเรื่องทำนองนี้ เราต้องการความปลอดภัย เราต้องการใครบางคนทำอะไรบางอย่าง มันเป็นเรื่องที่แย่จริงๆ!”
ด้านสโมสรเจนัวได้ประกาศยืนยันยกเลิกการฝึกซ้อมช่วงบ่ายวันอังคารเพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะที่โปรแกรมนัดเปิดซีซั่นกัลโช่ เซเรียอา ที่ต้องไปเยือนเอซี มิลาน ในวันเสาร์ยืนยันลงแข่งตามกำหนด
ส่วนทีมร่วมเมืองอย่างซามพ์โดเรียที่มีโปรแกรมเปิดสนาม ลุยจิ แฟร์ราริส รับการมาเยือนของ ฟิออเรนตินา ในวันอาทิตย์ ส่งหนังสือถึงฝ่ายจัดการแข่งขันขอเลื่อนโปรแกรมนัดเปิดฤดูกาลในสัปดาห์นี้ออกไปก่อน เพราะการจัดกิจกรรมนันทนาการอย่างฟุตบอลในช่วงเวลาแบบนี้คงดูไม่เหมาะสม โดยตอนนี้พวกเขากำลังรอฟังคำตอบจากฝ่ายจัดการแข่งขันอยู่
