สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง เจาะใจคนเป็นหนี้ เรื่อง เศรษฐกิจและการเมือง กจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนทุกอาชีพ จำนวน 1,104 ตัวอย่าง สำรวจระหว่าง วันที่ 9-11 สิงหาคม 2561
พบว่าประชาชนส่วนใหญ่กำลังเดือดร้อนเรื่องปัญหาหนี้สินครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้นอกระบบ การแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนยังมีความยากลำบาก และหวังพึ่งมาตรการของรัฐบาลในการช่วยเหลือปัญหาหนี้สิน
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยว่า จากผลสำรวจประชาชนส่วนใหญ่หรือ 62.8% ยังเดือดร้อนจากปัญหาหนี้สินครัวเรือน ขณะที่ 37.2% ไม่เดือดร้อน พบว่าส่วนใหญ่หรือ 68.9% เป็นหนี้นอกระบบ และ 58.4% เป็นหนี้ในระบบ เช่น สถาบันการเงิน สินเชื่อ บัตรเครดิตต่างๆ
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ 64.3% กำลังแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนด้วยความยากลำบาก ขณะที่ 35.7% ระบุยังสามารถหมุนเงินได้ ส่วนใหญ่ 84.1% หวังพึ่งมาตรการของรัฐบาล ในขณะที่ 15.9% ไม่หวังพึ่งอะไรจากรัฐบาล
จากผลสำรวจ 5 กระทรวงหลักที่แก้ปัญหาหนี้ได้ตรงจุดของประชาชน พบว่า อันดับแรก 46.9% ระบุกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองลงมาคือ 45.4% กระทรวงการคลัง, 41.1% กระทรวงกลาโหม, 35.6% กระทรวงแรงงาน และ 34.2% กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นอกจากนี้ 39.2% ระบุธนาคารที่ช่วยแก้ปัญหาหนี้สินได้ตรงจุด ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รองลงมาคือ 36.6% ธนาคารออมสิน, 35.8% ธนาคารอาคารสงเคราะห์, 30.9% ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ โดย 48.7% ได้ข่าวว่าเศรษฐกิจของประเทศดี , 45.2% ได้ข่าวว่า เศรษฐกิจไม่ดี และ 6.1% ไม่ได้ข่าว
ด้านแนวทางแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งให้มีผู้ตรวจการเลือกตั้ง พบว่า ส่วนใหญ่ 60.4% เห็นด้วยเพราะจะช่วยทำให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมมากขึ้น แก้ปัญหาซื้อสิทธิขายเสียง ลดปัญหาโกงการเลือกตั้งลงได้ ทำให้เกิดความเชื่อมั่น เป็นต้น ขณะที่ 39.6% ไม่เห็นด้วย เพราะกระทบต่อการเลือกตั้ง เป็นเกมการเมือง เพิ่มความซับซ้อนยุ่งยาก ไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไร เป็นต้น นอกจากนี้ เกินครึ่งหรือ 51.7% คิดว่าการแก้กฎหมายเลือกตั้งมีผลต่อการเลื่อนเลือกตั้ง แต่ 48.3% คิดว่าไม่มีผล