“โฆษก ศบค.” แถลงข่าวดี สถิติผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ลดเหลือ 15 คน หายดีเพิ่มอีก 244 คน แต่ย้ำ! ห้ามประมาทเพราะรอบบ้านผู้ติดเชื้อพุ่งพรวด ทั่วโลกกำลังจับตาอาเซียน ส่วนมาตรการผ่อนคลายรอ “ครม.” ตัดสินใจเร็วๆ อาจเริ่มทดลองบางพื้นที่ก่อน
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ประจำวันนี้ (22 เม.ย.) ว่า ล่าสุดพบผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 15 ราย รวมเป็นผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 2,826 ราย ในจำนวนนี้ถูกกักตัวอยู่ในพื้นที่ของรัฐ (State Quarantine) จำนวน 71 ราย, ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 244 ราย รวมเป็น 2,352 ราย และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 ราย รวมเป็น 49 ราย
สำหรับผู้ป่วยที่ยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้น 15 รายในวันนี้ แบ่งเป็น ผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยเดิม 10 ราย, เดินทางกลับจากต่างประเทศ 1 ราย, ไปสถานที่ชุมนุม 1 ราย และอาชีพ/พื้นที่แออัด 3 ราย
ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ที่ลดลงเหลือ 15 ราย ถือเป็นความสำเร็จในระดับหนึ่ง เป็นความสำเร็จเล็กๆ ระหว่างทาง ซึ่งคนไทยต้องภาคภูมิใจทั้งประเทศ ถือเป็นข่าวดีและเป็นกำลังใจให้ทุกคน โดยในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ยอดติดเชื้อลดลงทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งเกิดจากการทำงานของทุกฝ่ายตั้งแต่ 7-14 วันที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ถือว่าสิ้นสุดภารกิจ เพราะทั่วโลกกำลังเจอกับวิกฤติไวรัสโควิด-19 หลายคนบอกต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือน หลายๆ เดือน และบางทฤษฎีบอกเป็นปี
“ตัวเลขวันนี้น่าพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง 15 รายสำหรับผู้ป่วยใหม่ในวันนี้ ผู้ที่หายป่วยไปแล้วขึ้นเลข 3 หลัก 244 ราย ทำให้เรามีคนที่เข้ารับการรักษาตกลงไปเหลือแค่ 400 กว่ารายเท่านั้นเอง ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,826 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 ราย เป็น 49 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 58 ปี อาชีพแม่บ้าน มีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง และภาวะอ้วน มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับลูกสาวที่เป็นผู้ป่วยยืนยัน” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
ด้านผู้ติดเชื้อสะสมแบ่งตามเพศ เป็นเพศชาย 1,494 ราย และเพศหญิง 1,290 ราย โดยกลุ่มที่ติดเชื้อมากที่สุดคือ กลุ่มอายุ 20-29 ปี และอายุเฉลี่ยที่มีการติดเชื้ออยู่ที่ 39 ปี ด้านอายุน้อยที่สุดที่ติดเชื้อคือ 1 เดือน และอายุมากที่สุด 97 ปี
ด้านจังหวัดที่รับรักษาผู้ป่วยยืนยันสะสมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2,826 รายในปัจจุบัน มีทั้งหมด 68 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ จำนวน 1,451 ราย, ภูเก็ต 193 ราย, นนทบุรี 152 ราย, สมุทรปราการ 109 ราย, ยะลา 95 ราย, ปัตตานี 79 ราย, ชลบุรี 85 ราย, สงขลา 43 ราย, เชียงใหม่ 40 ราย และปทุมธานี 35 ราย
โดย 9+1 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานการรับรักษาผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร, ชัยนาท, ตราด, น่าน, บึงกาฬ, พิจิตร, ระนอง, สิงห์บุรี อ่างทอง และสตูล
จากสถิติการรับรักษาผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ไวรัสโควิด-19 พบว่า จังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีจำนวน 14 จังหวัด, จังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 7-14 วันที่ผ่านมา จำนวน 18 จังหวัด, จังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 14-28 วันที่ผ่านมา จำนวน 29 จังหวัด, จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 28 วันที่ผ่านมา จำนวน 7 จังหวัด และจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อน 9 จังหวัด
สำหรับจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 7 วันที่ผ่านมาจำนวน 14 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ภูเก็ต, ชลบุรี, ยะลา, ปัตตานี, สงขลา, ปทุมธานี, นครปฐม, นราธิวาส, ขอนแก่น, ชุมพร และพระนครศรีอยุธยา
จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 14 วันขึ้นไป 36+1 จังหวัด นับจากวันที่แถลงข่าว ได้แก่ เชียงราย, เพชรบุรี, เพชรบูรณ์, แพร่, แม่ฮ่องสอน, กาญจนบุรี, กาฬสินธุ์, จันทบุรี, ตาก, นครนายก, บุรีรัมย์, ประจวบคีรีขันธ์, มหาสารคาม, มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ระยอง, ราชบุรี, ลพบุรี, ลำพูน, ศรีสะเกษ, สกลนคร, สมุทรสงคราม, สระแก้ว, สระบุรี, สุโขทัย, สุพรรณบุรี, สุรินทร์, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อำนาจเจริญ, อุดรธานี, อุตรดิตถ์, อุทัยธานี, อุบลราชธานี และนครราชสีมา
จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อน 9 จังหวัด+1 ได้แก่ กำแพงเพชร, ชัยนาท, ตราด, น่าน, บึงกาฬ, พิจิตร, ระนอง, สิงห์บุรี, อ่างทอง และสตูล
สำหรับสถานที่แออัดหรือสถานที่ชุมนุมชนที่ผู้ป่วยแจ้งว่า เคยเดินทางไปช่วง 14 วันก่อนเริ่มป่วย จากการเก็บสถิติผู้ป่วยที่มีข้อมูลไปสถานที่แออัดหรือสถานที่ชุมนุมชน จำนวน 84 ราย มีดังนี้
ในกรุงเทพฯ ได้แก่ สถานบันเทิง, สนามมวย, สถานที่มั่วมุมเพื่อเล่นการพนัน, โรงภาพยนตร์, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ฟิตเนส, วัด, ร้านเสริมสวย, มหาวิทยาลัย, ร้านอาหาร, พื้นที่ท่องเที่ยว เช่น ซอยทองหล่อ, ตลาด, ห้างสรรพสินค้า, การใช้ขนส่งสาธารณะ, สถานที่ทำงาน และสถานพยาบาล
ในต่างจังหวัด ได้แก่ สถานบันเทิง, สนามมวย, สถานที่มั่วสุมเพื่อเล่นการพนัน, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ห้างสรรพสินค้า, พื้นที่ท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต หาดใหญ่ สงขลา ชะอำ, สถานที่ทำงาน, สำนักงาน, สถานพยาบาล, ตลาด, วัด และมัสยิด
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่การพิจารณาผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะต้องใช้ชุดข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขและพิจารณาความร่วมมือของประชาชน อย่างไรก็ตามตอนนี้คงไม่สามารถยกเลิกได้ 100% แต่ต้องเป็นในลักษณะผ่อนปรน ณ ตอนนี้สถานการณ์รอบประเทศไทยยังมีการติดเชื้อจำนวนมาก ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใหม่มีการติดเชื้อพุ่งสูง กลายเป็นที่จับตาของทั่วโลก แม้ในประเทศไทยจะสามารถควบคุมได้ แต่ถ้าประมาทตัวเลขสามารถพุ่งขึ้นได้อีก
สำหรับกิจกรรมและสถานที่ที่จะผ่อนคลายก็ขึ้นอยู่กับสถิติและข้อมูล ร้านตัดผมถ้ามีความจำเป็นก็ต้องเปิด แต่ผู้ประกอบการต้องมีมาตรการกำกับดูแลให้เกิดความมั่นใจว่า ลูกค้าปลอดภัย ไม่มีการติดเชื้อ
“ตอนนี้เป็นวาระสำคัญที่ต้องตัดสินใจ อาจทดลองบางพื้นที่ กลุ่มจังหวัด หรือทั้งประเทศ ต้องรอฟังก่อน จะมีนโยบายจากส่วนกลาง ด้านจังหวัดก็ต้องดูข้อมูลพื้นที่และปฏิบัติให้เหมาะสมกับแต่ละจังหวัด ตัดสินใจได้ตามระเบียบ ถ้าดูแลได้ดี ก็จะมีกิจกรรมทำได้มากขึ้น แต่ทั้งหมดต้องรอมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ ศบค. ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
- ‘อนุทิน’ เข้มใช้เงิน 4.5 หมื่นล้านแก้โควิด ‘ลดของนอก-อุดหนุนคนไทย’
- ความสำเร็จระหว่างทาง ยังไม่เสร็จสิ้น!! ผู้ติดเชื้อ ‘โควิด-19’ วันนี้ 22 เม.ย. เพียง 15 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 2,826 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย
- สถานทูตไทยในกรุงเฮก โพสต์แจ้งติดต่อสาวไทย ติด ‘ โควิด-19’ แล้ว