COVID-19

ร้านตัดผมได้เฮ! ‘บิ๊กตู่’ สั่งมท.ประเมินสถานการณ์โควิดก่อนผ่อนคลาย!

นายกฯ สั่งให้ทุกหน่วยงานพิจารณาประเมินการทำงานตามมาตรการร่วมกัน  เตรียมความพร้อมหากต้องปรับเปลี่ยนมาตรการ ข้อกำหนด ขณะช่างตัดผม มีลุ้นนายกฯสั่งมหาดไทย ประเมินสถานการณ์โควิด-19 ก่อนผ่อนคลาย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)  ที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปี 2563 ว่า จากสถานการณ์ทั่วโลกคงจะประสบปัญหาต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องกำหนดนโยบายแก้ไข ประกอบด้วยการเยียวยาภาคส่วนต่างๆ ในการช่วยเหลือสถานการณ์โควิด-19

นายกฯยังได้ให้แนวทางให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการแจกจ่ายเวชภัณฑ์ไปแล้ว ในส่วนของการตั้งคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการบริหารจัดการพัสดุ สำหรับการป้องกัน ควบคุม หรือรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) (ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 9/2563) เพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพที่สุด ขอให้เพิ่มผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข

ประยุทธ์13

สิ่งที่สำคัญคือ ต้องดูแล ช่วยเหลือประชาชน โดยในสถานการณ์นี้อาจจะพิจารณาใช้มาตรการพิเศษ แนวทาง ความช่วยเหลือที่ได้กำหนดแล้ว ให้นำไปใช้ให้ได้ผล ส่งความช่วยเหลือถึงประชาชนที่เดือดร้อน มอบหมายกระทรวงการคลังให้ดำเนินการ พัฒนาตามแนวทางที่กำหนด ชี้แจง ให้ประชาชนเข้าใจ

นายกรัฐมนตรี  ขอให้ทุกฝ่ายมีการประเมินภาพรวมร่วมกันในการทำงานที่ผ่านมาด้วย ว่า Best and worst case จะเป็นอย่างไร จะมีการผ่อนสั้นผ่อนยาว อนุโลม และเข้มงวดในเรื่องใดบ้าง เช่น กรณีช่างตัดผม ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหาแนวทางร่วมกัน ให้กระทรวงมหาดไทย เป็นหลัก ในการประเมินมาตรการผ่อนคลาย

หากเกิดสถานการณ์เลวร้ายลง worst case จะทำอย่างไร ให้พิจารณาให้ครอบคลุม ทุกมิติ เชิงลึก เชิงกว้างและรอบคอบ เพื่อประชาชนเป็นที่ตั้ง หากมีปัญหาก็ต้องช่วยกันแก้ไข ทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ต้องมีปัญหาแต่อย่าเกิดข้อขัดแย้งกันเอง ทุกฝ่าย ทุกคนเหนื่อย แต่ขอให้อดทนการดูแล

ส่วนการดูแลแรงงาน นายกฯสั่งให้สำนักงานประกันสังคม ดูแลแรงงานที่ขึ้นทะเบียนให้ได้รับการช่วยเหลือ ให้พิจารณาผู้ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนแรงงานว่า จะสามารถหาช่องทาง แนวทาง วิธีการ ในการช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง เช่น ช่วยเหลือให้ลงทะเบียนให้ครบถ้วน ถูกต้อง การจัดสรรงบประมาณให้ถูกกลุ่ม ถูกความต้องการ ความจำเป็น ส่วนงบประมาณของแต่ละกระทรวง เพื่อนำมาช่วยผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ขอให้ร่วมกันพิจารณาด้วยความละเอียดถี่ถ้วน เพื่อช่วยเหลือเยียวยา รักษา ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมคิดแบบมีวิสัยทัศน์ เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่นที่เป็นประโยชน์

ประยุทธ์131

นอกจากนี้ ยังได้กำชับในที่ประชุม ศบค.ดังนี้

1.ให้ทุกหน่วยงานการประเมินสถานการณ์ Best and Worst Case เพื่อปรับเปลี่ยนแนวทางการทำงาน

2. บันทึกเหตุการณ์โควิด-19 ในหอจดหมายเหตุเพื่อเป็นประโยชน์ในการดำเนินงานในอนาคต

3.การบูรณาการข้อมูล ความคิดเห็นของประชาชน แม้ใน Social Media จะโต้แย้งกัน บางข้อคิดเห็นก็มีประโยชน์ / ให้พิจารณาอย่างละเอียดทั้งแผนด้านบุคคลากร แผนด้านการทำงาน เช่น การจัดเงินกู้ ก็ต้องมีคณะกรรมการคัดกรองอย่างละเอียดถี่ถ้วน

4. ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาใจใส่ ตรวจตรา ประเมิน กำกับดูแลผู้ปฏิบัติงาน หากต้องการความช่วยเหลือ หรือเจ็บป่วย ด้านใด ต้องได้รับการดูแล ต้องช่วยเหลือ

5. ด้านการกระจาย แจกจ่าย เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ขณะนี้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ตอบสนอง รองรับความจำเป็นในการใช้งานได้

6. การกำหนดราคาสินค้า สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูแลอย่างใกล้ชิด กระทรวงพาณิชย์จัดทีมสร้างแนวร่วม เช่น จิตอาสา เพื่อช่วยสอดส่องดูแลให้เรียบร้อย

7. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำสถิติ ตัวเลข เช่น การติดเชื้อ ที่มาของโรค

8. พิจารณาการใช้แอปพลิเคชั่นโดยเมื่อสำเร็จแล้ว ให้ช่วยชี้แจงให้ประชาชนผู้ใช้งานเข้าใจ ใช้งานได้จริง

9. ด้านโครงการวิจัยและพัฒนา ให้ศึกษาว่าขณะนี้ เวลานี้ เราทำอะไรได้บ้าง ทั้งในส่วนของการดำเนินโดยบุคลากร manmade และ การใช้เทคโนโลยี รวมถึงการให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยเหลือ

10.ขอบคุณเอกชนที่ร่วมมือ และให้เกียรติรัฐบาล รวมทั้ง ขอบคุณที่ร่วมมอบสิ่งของ เครื่องใช้รวมถึงร่วมวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหา

หมอทวีศิลป์

ที่ประชุมฯ หน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมงานรายผลการดำเนินงาน โดย กระทรวงสาธารณสุข  รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ จำนวนเตียง เวชภัณฑ์ ที่จะรองรับผู้ป่วย เครื่องช่วยหายใจที่กระจายไปตามต่างจังหวัด ขอให้มั่นใจว่าเพียงพอรองรับ กระทรวงกลาโหม  รายงานถึงรวมการตั้งจุดควบคุม เฝ้าระวังว่าได้ดำเนินการอย่างเข้มงวด

กระทรวงมหาดไทย  รายงานการกระจายหน้ากากผ้าว่าครบตามจำนวน ได้แจกจ่ายครบ 50 ล้านชิ้นแล้ว ผ่านการดำเนินการตามแผนที่วางไว้ และการสร้างความเข้าใจกับประชาชน รวมทั้ง การทำ Local Quarantine (ที่กักกันของจังหวัก)ให้ได้ผลสำเร็จ การลงโทษผู้รวมตัวมั่วสุ่ม ผ่านการดำเนินการอย่างเข้มงวด ตลอดจนมีการค้นหาผู้ป่วยเพื่อดูแล ได้ดำเนินปิดด่านทางบก 50 แห่ง

กระทรวงการต่างประเทศ  รายงานความคืบหน้ามาตรการเดินทางเข้าออกประเทศ และการดูแลคนไทยในต่างประเทศ การทยอยนำคนไทยกลับประเทศ และการเข้ากระบวนการ State Quarantine (ที่กักกันของรัฐบาล)โดยไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย โดยในส่วนของการดำเนินงานด้านการข้ามแดนของแรงงานกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานประเทศต้นทาง และประสานฝ่ายหน่วยงานด้านความมั่นคงในการแก้ไขปัญหา

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  รายงานด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และสื่อสังคมออนไลน์ และได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น สำหรับผู้กักกันตัว App หมอชนะ ซึ่งเปิดให้คนทั่วไปดาวน์โหลด และได้นำมาใช้งานในหลายจังหวัด

กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงเรื่องหน้ากากอนามัย ชุด PPE ที่มีฐานรับสินค้าจากต้นทางและกระจายโดยไปรษณีย์ไทยเป็นไปอย่างราบรื่น ด้านสินค้าอุปโภค บริโภค มีเพียงพอ ราคาเหมาะสม ประชาชนเข้าถึงสินค้าได้

กระทรวงคมนาคม รายงานการดูแลระบบขนส่งสาธารณะ การทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค การขนส่งทางอากาศ  ได้ปิดท่าอากาศยานแล้ว 16 แห่ง และยังเปิดอยู่เปิด 12 แห่ง ในส่วนของระบบขนส่งมวลชน ได้พิจารณาเพิ่มรถ และเพิ่มความถี่เพื่อแก้ปัญหาความแออัด

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight