ถึงแม้ว่าองค์กรต่างๆ เริ่มมาตรการทำงานจากที่บ้าน (Work From Home : WFH) กันมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 แต่ทว่าธุรกิจต้องเดินหน้าต่อไป ยังมีกลุ่มคนทำงานบางส่วนที่จำเป็นต้องเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงาน ดังนั้นอาคารสำนักงานจึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารจัดการให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้อาคารในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันอาคารสำนักงานหลายแห่ง ก็ถูกออกแบบมาให้เป็นอาคารที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้อาศัย ทั้งเรื่องของการเป็น Smart Building ที่ช่วยประหยัดพลังงานและมีความปลอดภัยสูง ทั้งการรับมือภัยพิบัติ งานการรักษาความปลอดภัย การป้องกันรับมือเหตุไม่คาดคิด รวมถึงมีระบบปรับอากาศและระบบระบายอากาศที่ให้ความสำคัญกับอากาศสะอาดที่หมุนเวียนภายในอาคาร ซึ่งเรื่องการหมุนเวียนอากาศภายในอาคารที่มีคุณภาพนั้นปัจจุบันได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยมีการเผชิญปัญหาทั้งเรื่องฝุ่น PM 2.5 และเรื่องไวรัสโควิด-19 ซึ่งปัญหานี้สามารถบรรเทาลงได้ด้วยการจัดการอย่างบูรณาการ
ในช่วงเวลานี้ มาตรการการคัดกรองผู้คนก่อนเข้าอาคารนั้นนับเป็นด่านแรกและยังถือเป็นหนึ่งในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค รวมถึงมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อในอาคาร เช่น กำหนดจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนที่เข้า-ออกอาคาร ติดตั้งจุดให้บริการแอลกอฮอล์ล้างมือ ทำความสะอาดภายในอาคารสำนักงานด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและเชื้อไวรัสในจุดที่มีการสัมผัสตลอดทั้งวัน เพื่อลดโอกาสในการแพร่ระบาด หรือการอบโอโซน ฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคทุกชั้นในอาคารสำนักงาน ถือได้ว่าเป็นมาตรการพื้นฐานที่ทุกอาคารสำนักงานควรจะต้องมี
ดังที่ได้กล่าวนำมาข้างต้น อากาศที่สะอาดในอาคารที่ได้มาตรฐานก็เป็นปัจจัยสำคัญ โดยระบบปรับอากาศและระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพก็จะช่วยลดปัญหาด้านมลพิษในอาคาร รวมถึงเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้โดยที่หลายฝ่ายอาจคาดไม่ถึง การปรับอากาศในอาคารขนาดใหญ่จะเป็นการควบคุมสภาวะของอากาศให้เป็นไปด้วยความเหมาะสม สำหรับประเทศไทยที่มีอากาศร้อนชื้น หน้าที่ของระบบปรับอากาศจึงเป็นการทำความเย็นภายในอาคาร ด้วยการระบายความร้อนออกจากพื้นที่และจะมีการเติมอากาศ (Fresh Air) จากภายนอกเข้ามา ซึ่งอากาศที่เติมเข้ามาจะถูกกรองด้วยแผ่นกรองอากาศ (Filter) ที่มีอยู่หลากหลายชนิด ทำให้มีศักยภาพในการถ่ายเทอากาศ พร้อมทั้งการระบายอากาศที่ลดการเจือปนของมลพิษ เพื่อให้ช่วยควบคุมคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น สำหรับการเลือกใช้แผ่นกรองอากาศ (Filter) ของระบบระบายอากาศนั้น ก็แล้วแต่วัตถุประสงค์ของอาคารแต่ละแห่ง แต่สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้การหมุนเวียนอากาศภายในอาคารมีประสิทธิภาพ นั่นก็คือการดูแลรักษาระบบปรับอากาศและระบายอากาศ ซึ่งการจะดูแลให้มีประสิทธิภาพนั้นจะต้องมีบุคลากรมืออาชีพที่มีความรู้ความชำนาญ เนื่องจากการดูแล การตรวจสอบ การซ่อมแซม และการบำรุงรักษาในแต่ละครั้ง หากขาดความเชี่ยวชาญอาจสร้างความเสียหายหรือส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบฯ ที่ลดลงได้
อย่างไรก็ตาม การบริหารอาคารสำนักงานให้มีความปลอดภัยจากวิกฤต COVID-19 นั้น ยังมีองค์ประกอบในด้านอื่นๆ ด้วย ซึ่งวิกฤตในครั้งนี้ การรักษาหรือการทำความสะอาดถือเป็น Key issue หนึ่ง แม้เป็นเพียงเรื่องง่ายๆ แต่เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญทั้งความสะอาดภายในและภายนอกอาคาร ซึ่งพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในบทบาทงานด้านบริหารจัดการทรัพยากรอาคารนั้น ได้เพิ่มมาตรการด้านนี้อย่างเข้มข้น ทั้งการทำความสะอาดและพ่นฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ส่วนกลางของทุกอาคาร จัดอบรมให้ความรู้บุคลากรในการปฎิงานให้ถูกต้องโดยเจ้าหน้าที่จากสถานพยาบาลชั้นนำ ให้พนักงานสวมใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่ในอาคาร เพิ่มความเข้มงวดและความถี่ในการทำความสะอาดทุกบริเวณ โดยเฉพาะพื้นที่สำหรับให้บริการลูกค้า และจุดที่เกิดการสัมผัสบ่อย เช่น ปุ่มลิฟต์ ราวบันได ประตูต่างๆ จัดทำมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) โดยกำหนดแนวทางปฏิบัติในการใช้ลิฟต์และพื้นที่สาธารณะให้มีระยะห่างที่เหมาะสม
นอกจากนี้ยังมีจุดเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดให้ผู้ใช้อาคารได้อัพเดทข่าวสาร รวมถึงเผยแพร่วิธีการดูแลร่างกายในช่วงมีโรคระบาดในรูปแบบ 3 ภาษา ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ซึ่งจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในช่วงที่มีโรคระบาดได้อย่างทั่วถึง โดยมั่นใจว่าการรับมือไวรัสโควิด-19 ที่เข้มข้นของทุกภาคส่วน จะทำให้ประเทศไทยผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
