The Bangkok Insight

พบผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพิ่ม 6 รายรวด ยันสถานการณ์ไทย ยังแพร่ระบาดในวงจำกัด

พบผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพิ่ม 6 รายรวด ยอดผู้ป่วยสะสม 59 ราย ยันไทยยังมีการแพร่ระบาดในวงจำกัด  พร้อมเพิ่ม “สเปน” เป็นประเทศเสียง เหตุแพร่ระบาดเร็ว 

วันนี้ (11 มี.ค.) ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานสถานการณ์ของไวรัส COVID-19 มีนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมด้วยนพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์

882511

นพ.โสภณ ระบุว่า พบว่ามีผู้ป่วยเพิ่ม 6 ราย ไม่เกี่ยวข้องกัน

รายแรก เป็น ชายไทย อายุ 21 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในกทม.เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2563 ด้วยอาการไข้มีน้ำมูก ปวดศีรษะ ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลกลาง (นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 54)

รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 40 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจค้นประจำสนามบินสุวรรณภูมิ เริ่มป่วยวันที่ 7 ด้วยอาการไข้ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ด้วยอาการไข้ ไอ มีเสมหะ ปวดศีรษะ และรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง (นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 55)

รายที่ 3 เป็นชายไทยอายุ 25 ปี พนักงานบริษัทเอกชน เริ่มป่วยวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วยอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน กทม. 2 ครั้ง (วันที่ 27 กุมภาพันธ์ และ 2 มีนาคม 2563) ด้วยอาการไข้ แพทย์รับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล ผลเอกซเรย์พบปอดอักเสบ รักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้น และหาสาเหตุไม่ได้ เข้านิยามการเฝ้าระวัง จึงตรวจทางปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อ ขณะนี้ส่งมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร (นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 56)

รายที่ 4 เป็นหญิงไทย อายุ 27 ปี เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ถึงไทยเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 เริ่มป่วยวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกทม.เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วยอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดศีรษะ ขณะนี้ ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี (นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 57)

รายที่ 5 เป็นชายไทยอายุ 40 ปี เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น โดยก่อนเดินทางกลับ (25 กุมภาพันธ์ 2563) ประสบอุบัติเหตุเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่น เดินทางกลับถึงไทย 26 กุมภาพันธ์ 2563 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งจากกระดูกข้อมือซ้ายหัก ได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลพบเชื้อไวรัสสาเหตุโควิด-19 รักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง (นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 58)

รายที่ 6 ผู้ป่วยชายชาวสิงคโปร์ อายุ 36 ปี เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในกทม. เริ่มป่วยวันที่ 6 มีนาคม ด้วยอาการไข้ ไอ ปวดเมื่อยตามตัว เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ขณะนี้รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร (นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 59)

โดยรายที่ 1 และ 2 ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ทำงานเกี่ยวข้องกับคนต่างชาติ  หนึ่งคนสัมผัสสิ่งของที่ผ่านมือหลายคน เช่น สัมภาระ อีกคนเป็นเจ้าหน้าที่ตม. สัมผัส คือ พาสปอร์ต

“คนที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับต่างชาติ ต้องป้องกันตนเอง ต้องล้างมือ โดยเฉพาะตม.ที่ต้องหยิบพาสปอร์ต หรือสิ่งของอื่น ต้องล้างมือบ่อยๆ เพื่อลดความเสียง และไม่เอามือไปจับบริเวณใบหน้า และต้องใส่หน้ากากอนามัย “

สำหรับผู้ป่วยรายที่ 3 ไม่มีประว้ติเดินทางไปต่างประเทศ แต่ลักษณะการทำงาน มีความเสี่ยงจะรับเชื้อ เพราะเดินทางไปมาหลายที่ หลายจุด บางจุดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีโอกาสเจอคนต่างชาติ โดยหลักๆทำงานเกี่ยวกับวิศวกร มีการประชุมบ้าง และลงพื้นที่บ้าง โดยจะมีการหารายละเอียดเพิ่มเติมต่อไปว่า จุดไหนเสี่ยงสูงสุด อย่างไรก็ตามจากการตามดูผู้สัมผัสใกล้ชิด ผู้ร่วมงาน และครอบครัว ไม่พบเชื้อ  เท่ากับเขาไม่แพร่เชื้อต่อ

สำหรับรายที่ 6 เป็นผู้ป่วยชาย เป็นชาวสิงคโปร์ มีผู้ไปมาหาสู่ ติดต่อเป็นชาวต่างชาติ ทั้งชาติเดียวกัน และชาติอื่น เขาอยู่เมืองไทยระยะเวลานานกว่าระยะฟักตัว แต่ลักษณะ คือให้บริการนักท่องเที่ยว หรือคนต่างชาติ จึงมีโอกาสได้รับเชื้อ

รวมยอดผู้ป่วยสะสมถึงวันนี้  59 ราย เป็น รักษาหาย กลับบ้านแล้ว 34 ราย รักษาตัวในรพ. 24 ราย เสียชีวิต 1 ราย สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 1 ราย ที่รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ปัจจุบันไทยถูกจัดอันดับอยู่ที่ 35 ของประเทศที่มีการแพร่ระบาดจากช่วงแรกอยู่ในอันดับ 2

รวมผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวังของไทย ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 10 มีนาคม 2563 รวม 4,848 ราย คัดกรองจากทุกด่าน 216 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 4,632 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 2,945 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 1,903 ราย

สำหรับพนักงานชาวสิงคโปร์ที่เิดินทางมาประชุมที่ไทย และมีเชื้อไวรัส COVID-19 นั้น ตรวจสอบพบ ทำงานที่ไทย 1 วัน เมื่อวันที่ 5 มีนาคม กลับไปสิงคโปร์วันที่ 6 มีนาคม และวันที่ 7 มีนาคม พบว่าเป็น ไวรัส COVID-19 คาดว่าได้รับเชื้อมาก่อน และมีประวัติเดินทางไปประเทศอังกฤษด้วย  นอกจากจะมาจากสิงคโปร์ ซึ่ง 2 ประเทศ มีรายงานผู้ป่วย และพบผู้สัมผัส 84 คน  ไม่มีใครป่วย และไม่พบเชื้อไวรัส COVID-19  จึงสรุปได้ว่า รายนี้ไม่ได้ติดเชื้อจากไทย และไม่ได้แพร่เชื้อในไทย ปัจจุบันรักษาอาการที่สิงคโปร์

11 มี.ค. 63

ทางด้านสถานการณ์ทั่วโลก ปัจจุบัน พบเชื้อไวรัส COVID-19 ใน 115 ประเทศ รวม ฮ่องกง มาเก๊า 2 เขตบริหารพิเศษ 1 เรือสำราญตั้งแต่ 5 มกราคม – 11 มีนาคม 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 116,657 ราย เสียชีวิต 4,091 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 80,761 ราย เสียชีวิต 3,136 รายมีผู้ป่วยรวม 116.000 คน เสียชีวิตรวม 4,091 ราย

นพ.โสภณ ย้ำว่า ในยุโรป ประเทศที่น่าเป็นห่วง คือ อิตาลี ซึ่งนายกรัฐมนตรีของเขา ก็ได้ประกาศห้ามการเดินทางแล้ว  ซึ่งอิตาลีมีประชากร 60 ล้านคนใกล้เคียงไทย มาตรการนี้ ช่วยทำให้การแพร่ระบาดนอกประเทศดีขึ้น เพราะอย่างที่ทราบดีว่า ผู้ป่วยหลายคนของเราก็เดินทางกลับมาจากอิตาลี เช่นเดียวกับอิหร่าน ก็น่าเป็นห่วง มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่เกาหลีใต้ ดูเหมือนสถานการณ์จะดีขึ้น มีผู้ป่วยรายใหม่ 35 ราย

สำหรับบางประเทศในยุโรปที่มีการแพร่ระบาดต่อเนื่องเร็วมาก และไม่หยุดง่ายๆ คือ สเปน เข้าตามเกณฑ์ คือ มีผู้ป่วยเกิน 1,000 ราย และระบาดต่อเนื่อง มากกว่า 2 สัปดาห์ กระทรวงสาธารณสุข จึงเพิ่ม “สเปน” เป็นประเทศกลุ่มเสียงที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอีกประเทศ

ทั้งนี้เพื่อแนะนำคนไทยให้หลีกเลี่ยงการเดินทาง หากจำเป็นต้องไป  ต้องหลีกเลี่ยงในหลายๆสถานที่ เช่น รพ.ของประเทศนั้น และต้องล้างมือบ่อยๆ เมื่อเดินทางกลับมาจากประเทศนั้น แนะนำแยกตัว อยู๋ในห้องที่พักไม่ปะปนคืนอื่น แยกสำรับ และขอใช้ และติดตามอาการ และวัดไข้ตัวเองทุกวัน

882513

ด้านสถานการณ์ของแรงงานไทยนอกระบบจากเกาหลีใต้ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ นพ.โอกาส ระบุว่า มีทั้งหมด 241 คน เป็นชาย 104 คน หญิง 137 คน (มาจากเมืองแทกูและคย็องซังเหนือ 8 คน) มีกลุ่มดูแลพิเศษ 29 คน เป็นหญิงตั้งครรภ์ 6 คน เด็กเล็ก 5 คน มีโรคประจำตัว 18 คน ผลการคัดกรองไม่พบผู้อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ทุกคนไม่มีไข้

Avatar photo