ราคาน้ำมันในตลาดโลก ดิ่งลงหนักสุดในรอบ 29 ปี หลังจากที่ซาอุดีอาระเบีย เปิดฉากทำสงครามราคากับรัสเซีย ซ้ำเติมหุ้นเอเชีย ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 อยู่แล้ว ทรุดลงอย่างหนัก
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ซื้อขายในตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ ร่วงลงมากถึง 14.25 ดอลลาร์ หรือ 31.5% มาอยู่ที่ 31.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถือเป็นการร่วงลงเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์ครั้งรุนแรงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2534 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นสงครามอ่าวเปอร์เซีย และแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นต้นมา
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ ร่วงลง 11.28 ดอลลาร์ หรือ 27.4% มาอยู่ที่ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ร่วงลงเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์ครั้งรุนแรงสุดนับตั้งแต่เกิดสงครามอ่าวเช่นกัน และอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2559
ทางด้านดัชนีนิกเคอิ ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดอยู่ที่ 19,518.43 จุด ดิ่งลง 1,231.32 หรือ 5.93% ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงที่ 25,086.87 จุด ร่วงลง 1,059.80 จุด หรือ 4.05% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีน ที่ 2,975.71 จุด ลดลง 58.80 จุด หรือ 1.94% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ที่ 2,839.59 จุด ลดลง 121.39 จุด หรือ 4.10%
ซาอุดีอาระเบีย ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก ประกาศลดราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ เปิดฉากทำสงครามกับรัสเซีย ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของโอเปค ที่จะให้ลดการผลิตน้ำมันลงมาอีก ในความพยายามที่จะพยุงราคาน้ำมันในตลาดให้มีเสถียรภาพ ท่ามกลางความต้องการที่ลดลง เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19
สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดหุ้น ที่ยังวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลกในขณะนี้ โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (ฮู) ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก เพิ่มขึ้นมากกว่า 100,000 ราย และในบรรดาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวนั้น เสียชีวิตแล้วมากกว่า 3,600 ราย
