SET Index ภาคเช้าปิดตลาดร่วง 42.06 จุด อยู่ที่ 1,397.04 จุดเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังกังวลการแพร่ระบาดของ “ไวรัสโควิด-19”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยภาคเช้าปิดการซื้อขายที่ 1,397.04 จุด ลดลง 42.06 จุด หรือ 2.92% มูลค่าการซื้อขาย 46,761.67 ล้านบาท โดยดัชนีสูงสุดระหว่างวันอยู่ที่ 1,428.35 จุด และดัชนีต่ำสุดอยู่ที่ 1,388.02 จุด ทั้งนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ขยายวงกว้างออกไปในหลายประเทศ และล่าสุดพบคนไทยติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย
ทั้งนี้ เปิดตลาดเมื่อเวลา 10.00 น.ดัชนีอยู่ที่ 1,424.39 จุด ลดลง 14.71 จุด (-1.02%) และเมื่อเวลา 12.09 น. ดัชนีปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 1,388.67 จุด ลดลง 50.43 จุด (-3.50%)
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานว่า นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็ติดลบกันเฉลี่ย 1% ซึ่งตลาดบ้านเราก็ปรับตัวลงใกล้เคียงกับภูมิภาค โดยมีความวิตกการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 นอกประเทศจีนที่ขณะนี้เริ่มบานปลายไปมาก ทั้งอิตาลี, สเปน, เกาหลีใต้, อิหร่าน, บาห์เรน เป็นต้น โดยตอนนี้ก็ต้องจับตาว่าการแพร่ระบาดจะสามารถควบคุมได้หรือไม่ ซึ่งก็มีผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไปด้วย
อย่างไรก็ตาม เช้านี้ กระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า พบคนไทย 3 คนในครอบครัวเดียวกันติดเชื้อโควิด-19 โดยผู้เป็นปู่และย่าเดินทางกลับมาจากไปเที่ยวฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น และนำเชื้อกลับมาติดหลานชายวัย 8 ขวบ
