สาธารณสุข เล็งคัดกรองเข้มผู้เดินทางจาก “อิตาลี” หลังมีผู้ป่วยเป็นกลุ่มใหญ่ ยันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ไม่จบง่ายๆภายใน 1-2 เดือน เหตุมีการแพร่ระบาดขยายวงกว้างในหลายประเทศ ย้ำผู้จัด “โมโตจีพี 2020” รวมถึงการชุมนุมเหตุอนาคตใหม่ถูกยุบพรรค ต้องมีมาตรการป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนา เพราะมีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก เพิ่มความเสี่ยง
หลังจากที่ “อิตาลี” กำลังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ หรือ COVID-19 อย่างรวดเร็ว และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย จนทางการต้องประกาศปิดโรงเรียน ร้านอาหาร และแหล่งชุมชน 10 เมือง เป็นเวลา 5 วัน และงดกิจกรรมสาธารณะทั้งหมด
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการที่ไทยมีตัวเลขผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังมากขึ้นในวันนี้ ( 22 ก.พ.) จำนวน 1,252 ราย เพราะเราขยายผู้ที่เดินทางมาจากประเทศต่างๆ ที่จะต้องมีมาตรการคัดกรองในระดับเดียวกับผู้ที่เดินทางมาจากจีน ประกอบด้วย ฮ่องกอง มาเก๊า และจีนไทเป สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และจะมีมากขึ้น ได้แก่ เกาหลีใต้ รวมถึงอาจจะมี “อิตาลี ” เพิ่มเติม เพราะมีการรายงานพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ ส่วนในประเทศเฝ้าระวังในบางที่เสี่ยง ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรปราการ และชลบุรี
ส่งผลให้ไทยตรวจพบผู้ป่วยโดยเร็ว ลดการแพร่เชื้อในประเทศ ลดจำนวนผู้ป่วย ทั้งนี้ยืนยันว่า เราเฝ้าระวัง และควบคุมสถานการณ์เต็มที่ ให้เราอยู่ในสถานะผู้ป่วยน้อยๆต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้ อย่างไรก็ตามคนไทยต้องเข้าใจสถานการณ์ไม่ตื่นตระหนก และไม่เชื่อข่าวลวง
นพ.ธนรักษ์ ย้ำว่า เราเข้าใจดีว่า เศรษฐกิจไทยขึ้นกับการท่องเที่ยว และได้รับผลกระทบในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา แต่ยืนยันว่าสถานการณ์แบบนี้ จะไม่ฟื้นเร็ววัน เราต้องต่อสู้กับโรคนี้ยาวนาน การปิดเคส 1-2 เดือนแทบเป็นไปได้เลย อย่างที่เราเห็นกันแล้วว่า มีประเทศแพร่ระบาดมากขึ้น และหากอิตาลีควบคุมไม่ได้ ก็จะมีการแพร่ต่อไปประเทศอื่นๆในยุโรปได้อีก ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกัน ประคับประคองทุกด้าน ทั้งสังคม เศรษฐกิจ การเชยชาในการป้องกันตนเอง จะทำให้ตัวเอง และประเทศเสี่ยง ดังนั้นทุกคนต้องเข้าใจวิธีปฏิบัติตัว
กรณีการจัดงานแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ “โมโตจีพี 2020” ระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคมนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ และการชมุนุมทางการเมืองที่จะทำให้มีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมากนั้น แน่นอนเพิ่มความเสี่ยง
เพราะไม่รู้ใครมาจากไหนบ้าง และติดเชื้อหรือไม่ แต่ความเสี่ยงสูงไม่ได้สำคัญ เท่ากับเราจัดการความเสี่ยงได้หรือไม่ ยกตัวอย่างแพทย์ที่ดูแลคนไข้ เสี่ยงสูงมากทุกวัน แต่ไม่ติดเชื้อ เพราะจัดการกับความเสี่ยงได้ เช่นเดียวกัน การจัดงานที่มีคนมารวมตัวจำนวนมาก หากจัดการได้ดี ก็ลดตวามเสี่ยง
แนะนำว่า หากใครมีอาการคล้ายเป็นหวัด ไม่ว่าจะเบาขนาดไหน ต้องไม่ออกไป และไม่ไปงานนั้นๆ ขณะเดียวกันผู้จัดงาน ก็ต้องบริหารความเสี่ยงทุกวิธี คัดกรองคนที่มี ไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก ต้องออกจากสถานที่บริเวณงาน
ในส่วนของโมโตจีพี 2020 ไม่ใช่แค่งานอีเว้นท์ แต่คนจะเข้าไปอยู๋ในบุรีรัมย์ จำนวนมาก ก่อนงานเริ่ม และไปในที่ต่างๆ สำหรับวันงาน ต้องคัดกรอง และแจกหน้ากากผ้า และหน้ากากอนามัย สำหรับทุกคนที่ไปร่วมงาน รวมถึงเจลแอลกอฮอล์อย่างทั่วถึง และต้องทำทั้งผู้ร่วมงาน คนที่ไปดู และผู้เกี่ยวข้อง
ขณะที่นักท่องเที่ยว หรือคนไป่ร่วมงาน นอกจากไปสถานที่จัดงานแล้ว ยังไปอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ได้แก่ โรงแรม ร้านอหาร ต้องร่วมมือกัน ต้องมีมาตรการทั่วไป เช่น เตรียมหน้ากาก เจลล้างมือ ป้องกันแพร่ระบาด และสอดส่องดูว่ามีผู้ป่วยในที่นั้นๆหรือไม่ หากมีแนะนำให้ไปตรวจรักษาโดยเร็ว
ส่วนการออกมาชุมนุมทางการเมือง หากไม่อยากเพิ่มความเสียง ก็ไม่ควรจัด เพราะเท่ากับไปสนับสนุนให้ไวรัสแพร่เชื้อได้โดยง่าย หากจำเป็นต้องจัด ก็มีหลายวิธีที่จะแสดงความไม่เห็นด้วย หรือไม่พอใจทางการเมือง เพราะสำหรับด้านการแพทย์และสาธาณสุข ช่วงเวลานี้สุขภาพของพผู้คนสำคัญที่สุด
“กิจกรรมบางอย่างชะลอได้ก็ชะลอไป หากต้องมารวมตัว ก็ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำ คือ ใครมีอาการไข้ ไอเจ็บคอ อย่าไป จะนำโรคไปให้คนอื่น และคนจัดต้องคัดกรอง การชุมนุม อาจมีการแจกจ่ายอาหารเครื่องดื่ม ก็ต้องระวัง หากมีผู้ติดเชื้ออยูรวมด้วยกัน จะแพร่ไปยังคนอื่นได้ง่าย การป้องกันดูแลเหล่านี้ มีรายละเอียดเยอะมาก เป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายต้องพิจารณาอย่างดี ก่อนจัดงาน “
