อย.ประสานผู้ผลิตหน้ากากอนามัย 8 ราย ย้ำพร้อมให้ความร่วมมือ เร่งผลิต-ลดส่งออก แก้ขาดแคลน เหตุความต้องการในประเทศล้น ส่วนเจลล้างมือแนะนำทำเองได้
จากสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ทำให้ประชาชน ตื่นตัวในการใช้หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ทำให้เกิดการขาดแคลน และราคาขยับขึ้น
กระทรวงสาธารณสุข จึงได้หารือกับผู้ประกอบการผลิตหน้ากากอนามัย พร้อมกับมอบให้องค์การเภสัชกรรม เร่งผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือมากขึ้น และจัดหาหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ จากบริษัทผู้ผลิต กระจายลงไปในร้านขายยาขององค์การเภสัชกรรมเพิ่ม อย่างไรก็ตามคาดว่า หลังจากครม. เห็นชอบให้หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เป็นสินค้าควบคุม คาดว่าปัญหาจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
โดยวันนี้ (6 ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้หารือกับผู้ผลิตหน้ากากอนามัย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการอย. กล่าวว่า พบว่าขณะนี้มีการผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศ 1.4 ล้านชิ้นตอวัน เพิ่มขึ้นจาก 7.4 แสนชิ้นต่อวัน โดยจำนวนที่ผลิตขึ้นนั้น เป็นการขายในประเทศ 1 ล้านชิ้น
ทั้งนี้ได้พูดคุยกัผู้ประกอบการ 8 รายที่มาหารือในครั้งนี้ จากที่มีทั้งหมด 12 ราย โดยทุกรายพร้อม ให้ควารร่วมมือผลิตหน้ากากจากโรงงานเพิ่ม
“สิ่งที่เราต้องการ คือ ขอให้มีกาลังผลิตมากขึ้น หรือส่งออกน้อยลง เพราะภายในประเทศ มีความต้องการมาก จึงมั่นใจได้ว่า จะมีเพียงพอใช้ ทั้งในโรงพยาบาล และประชาชนที่ป่วย ”
และขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ก็ได้มอบให้องค์การเภสัชกรรม ปันส่วนจากโรงงานผลิต ขายต่อให้ประชาชน และโรงพยาบาล ประกอบกับหน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมแล้ว จึงมันใจได้ว่าจะจัดการปัญหาได้
” ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือ บางโรงงานก็พร้อมจะสนับสนุนมาโดยตรง ถือว่าเราทำงานร่วมกัน เพื่อประเทศของเรา ส่วนราคา ก็ขี้นกับวัตถุดิบ ต้นทุนเฉลี่ยต่อชิ้นไม่เกินบาทกว่าๆ แต่อาจแพงขึ้นสำหรับหน้ากากแบบหนา แต่ก็เป็นสินค้าควบคุมแล้ว ”
ส่วนเจลแอลกอฮอลฺ์ล้างมือ กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ทำเอง โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้สาธิตวิธีทำเจลแอลอฮอง์ล้างมือง่ายๆในการแถลงข่าวสถานการณ์โคโรนาวันนี้ ( 6 ก.พ.)