เพราะว่าคำๆ นี้จะอยู่กับตัวเราตลอดไป…ดาราสาว ต่าย ชุติมา – ทีปะนาถ เผยข้อความสุดซึ้งผ่านโพสต์ล่าสุด (28 ม.ค.) ในอินสตาแกรมส่วนตัว หลังลงภาพและคลิปโชว์รอยสักชื่อภาษาอังกฤษของลูกสาวตัวน้อย น้องพิพิม ที่ท้องแขน ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าลูกสาวดีใจมากที่มีชื่ออยู่บนแขนคุณแม่ และยังได้ไปจับมือให้กำลังใจคุณแม่ไม่ห่างในวันนั้นอีกด้วย โดย สาวต่าย บอกว่าเลือกวางคำนี้ที่แขนซ้ายใกล้ๆ เส้นเลือด เพราะเป็นทางพุ่งตรงไปที่หัวใจพอดี
“พิพิมดีใจมากที่มีชื่อเค้าอยู่บนแขนหม่าม๊า (ชอบจุ๊บ tatto มาก) แล้วบอกว่าโตขึ้นอยากทำบ้าง อยากเขียนชื่อหม่าม๊าบนแขนเพราะรักหม่าม๊า เลยบอกว่ารอ 18+ นะลู๊กกก #ประสบการณ์ครั้งนี้เปลี่ยนความคิดเรื่องการสักไปเลย #มันไม่ใช่สิ่งที่รุนแรงอีกต่อไป #มันคือศิลปะที่มีความหมายลึกซึ้งแฝงอยู่ตะหาก
#ที่มาที่ไปของสิ่งเน้….
จริงๆ อยากสักมาตั้งนานนนนละ แต่ไม่รู้จะใช้คำไหนดีที่ so classic & forever เพราะว่าคำๆ นี้จะอยู่กับตัวเราตลอดไป ถ้าเบื่อแล้วลบไม่ได้
และวันนี้ก็มีคำๆ นึง…ที่สำคัญกับเรามากที่สุด…และตลอดไป…คือคำว่า “pipim”
ในวันนั้นพิพิมไปจับมือให้กำลังใจช่วงท้ายๆ ด้วย แม่รู้สึกว่าทุกครั้งที่มอง tatto นี้ก็จะจดจำเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดีว่าไปกับใคร…เลยอยากให้พิพิมเป็นคนนั้นที่เราจะนึกถึงเสมอ
แม่อธิบายพิพิมว่านี่คือการ เขียนที่ลบไม่ออกนะคะ ไม่ควรอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการสัก ยังไม่เหมาะกับเด็กค่ะ
สีที่ใช้แม่ก็ให้พิพิมเลือกให้ สรุปคุณเค้าบอกว่าจะเอาสี Rainbow จ้าจัดไป
แม่เลือกวางคำนี้ที่แขนซ้ายใกล้ๆเส้นเลือด เพราะเป็นทางพุ่งตรงไปที่หัวใจพอดี”
โดยในวันเดียวกัน (28 ม.ค.) ต่าย ชุติมา ยังได้ออกมาอัปเดตความสัมพันธ์กับอดีตสามีนักธุรกิจหนุ่ม ทิม พิธา – ลิ้มเจริญรัตน์ หลังมีกระแสข่าวลือว่าทั้งคู่ได้จรดปากกาเซ็นใบหย่ากันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า
“อันนี้คืออยากให้เป็นเรื่องในกระบวนการอยู่ ยังไม่อยากลงรายละเอียด คือยังพูดไม่ได้ค่ะ หมายถึงว่าในกระบวนการเขาก็จะมีคำสั่งมา ถามว่ามันจะยืดเยื้อไปอีกยาวนานมั้ย คิดว่าไม่น่าจะนานนะคะ น่าจะเป็นภายในปีนี้”
“ถามว่าสบายใจขึ้นใหม่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา จริงๆ มันก็สบายใจตั้งแต่แรกอยู่แล้วนะ หมายถึงว่าตั้งแต่แรกเริ่มที่มีเรื่องหรืออะไร คือทุกอย่างมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ”
“ในส่วนของความสัมพันธ์กับคุณทิม เหมือนเดิมค่ะคือคุยเรื่องลูก เราก็เหมือนกับไปตามธรรมชาติ ส่วนตัวไม่ได้โกรธไม่ได้ติดใจอะไร ทำทุกอย่างออกมาจากใจ”
“ถามว่าเตรียมคำพูดไว้หรือยัง ถ้าเกิดน้องพิพิมโตขึ้นมาแล้วถามถึงเรื่องนี้ ทุกอย่างก็คือต้องพูดตามความจริง ไม่คิดจะปิดบังอะไรอยู่แล้ว เพราะถ้าเราปิดบังอะไรเขา แน่นอนเขาก็ต้องปิดบังอะไรเรา ฉะนั้นก็ต้องเลี้ยงให้เขาเป็นเพื่อนสนิทของเราที่สามารถจะบอกกันได้ทุกเรื่อง วันนึงถ้าเขาอยากรู้อะไรเราก็ยินดีที่จะเล่าอยู่แล้ว ถามว่าทุกวันนี้เขามีคำถามอะไรมั้ยเวลาที่อยู่บ้านพ่อกับบ้านแม่ เขาเข้าใจอยู่แล้วค่ะ ว่าตอนนี้กิจวัตรเขาเป็นยังไง การปรับตัวของเขาคือทุกๆ วันก็ดีขึ้นตลอด
