วันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีนนั้น ในปีนี้ตรงกับวันที่ 25 มกราคม แต่ก่อนที่จะถึงวันนั้น ลูกหลานชาวจีนทั้งหลายมีเรื่องที่ต้องให้ทำกันมากมาย ซึ่งตามประเพณีที่ทำกันมายาวนานกว่า 4,000 ปีแล้วนั้น ก่อนที่จะฉลองวันตรุษจีนนั้น จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสียก่อน เพราะมีความเชื่อกันอยู่มากมายสำหรับเทศกาลนี้
วันสำคัญในช่วงตรุษจีนนี้ มีหลักๆ อยู่ 3 วันด้วยกัน คือ วันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว
ปฏิทินวันตรุษจีน 2563
- วันจ่าย วันที่ 23 มกราคม
- วันไหว้ วันที่ 24 มกราคม
- วันเที่ยว วันที่ 25 มกราคม
วันจ่าย (ตื่อเส็ก)
วันที่ต้องไปหาซื้ออาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ มาเตรียมพร้อมไว้ก่อน เพราะว่าวันไหว้จะเป็นวันที่ร้านค้าต่างๆ จะหยุดยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน
วันไหว้
วันไหว้ของเทศกาลตรุษจีนนั้นจะเป็นวันที่มีการไหว้เทพเจ้าต่างๆ ด้วยอาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ ฯลฯ ตามธรรมเนียมปฏิบัติขอพรไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภหรือบรรพบุรุษ
วันเที่ยว (ชิวอิก)
วันที่คนจีนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ที่สวยงามสีแดงสดใส จะออกเดินทางไปเป็นครอบครัวเพื่อไปไหว้ขอพรผู้ใหญ่ หรือพากันท่องเที่ยว ถือว่า วันนี้เป็นวันแห่งสิริมงคล และงดทำบาปทั้งปวง
อาหารไหว้
วันฉลองตรุษจีน อาหารจะถูกรับประทานมากกว่าวันอื่นๆ ของปี ซึ่งอาหารแต่ละชนิดที่นิยมนำมาไหว้ หรือรับประทานกันในวันนี้ ล้วนแต่ต้องเลือกเฉพาะอาหารที่มีความหมายถึงเรื่องที่เป็นมงคลเท่านั้น
- เม็ดบัว หมายถึง การมีลูกหลานที่เป็นชาย
- เกาลัด หมายถึง เงิน
- สาหร่ายดำ หมายถึง ความร่ำรวย เพราะออกเสียงคล้ายกับคำว่า จี๊ ในภาษาจีนที่แปลว่าเงิน และสื่อถึงความมั่งคั่งร่ำรวย
- เต้าหู้หมักที่ทำจากถั่วแห้ง หมายถึง เต็มไปด้วยความร่ำรวย และ ความสุข โดยเต้าหู้ที่ทำจากถั่วสดนั้นจะไม่นำมารวมกับอาหารในวันนี้เนื่องจากสีขาวซึ่งเป็นสีแห่งโชคร้าย สำหรับปีใหม่และหมายถึงการไว้ทุกข์
- หน่อไม้ ชื่อออกเสียงคล้าย คำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข
- ปลาทั้งตัว เป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดมสมบรูณ์ เหลือกินเหลือใช้ เนื่องจากคนจีนแต้จิ๋ว เรียกปลาว่า ฮื้อ พ้องกับคำมงคลที่ว่า อู่ ฮื้อ อู่ ชื้ง แปลว่า ให้เหลือกินเหลือใช้
- ไก่ทั้งตัว หมายถึง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ยศ ความสง่างาม
โดยไก่มีมงคล 2 ประการคือ หงอนไก่เพราะมีลักษณะคล้ายหมวกของขุนนาง สื่อความหมายมงคลถึงความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และไก่ขันตรงเวลาทุกเช้าสะท้อนถึงการรู้หน้าที่ของตน - เป็ด หมายถึง สิ่งที่บริสุทธิ์ ความสะอาด ความสามารถอันหลากหลาย
- หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้ตลอดทั้งปี
- บะหมี่ยาวหรือหมี่ซั่ว หรือฉางโซ่วเมี่ยน ตามชื่อหมายถึง อายุยืนยาว (ไม่ควรตัดเนื่องจากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว)
ขนมไหว้
- ขนมเข่ง หมายถึง ความหวานชื่น ราบรื่นในชีวิต ความหวานชื่นอันสมบูรณ์
- ขนมเทียน หมายถึง ขนมที่มีความหวานชื่น ราบรื่น รูปลักษณ์เป็นกรวยแหลมมีลักษณะเป็นมงคลเหมือนเจดีย์
- ขนมไข่ หมายถึง ความเจริญเติบโต
- ขนมถ้วยฟู หมายถึง เพิ่มความรุ่งเรือง เฟื่องฟู
- ซาลาเปา หรือ หมั่นโถว หมายถึง ไหว้เพื่อให้เปาไช้ ห่อโชค ห่อลาภ
- จันอับ (จั๋งอั๊บ) หมายถึง เพิ่มพูน มีความสุขตลอดไป ใประกอบด้วยขนม 5 อย่าง คือ
เต้ายิ้งปัง คือ ขนมถั่วตัด
มั่วปัง คือ ขนมงาตัด
ซกซา คือ ถั่วเคลือบน้ำตาล
กวยแฉะ คือ ฟักเชื่อม
โหงวจ๊งปัง คือ ขนมข้าวพอง
ผลไม้ไหว้
- กล้วย หมายถึง กวักโชคลาภ มีลูกหลาน มีวงศ์วานว่านเครือสืบสกุล
- แอปเปิ้ล หมายถึง ความสันติสุข สันติภาพ
- สาลี่ หมายถึง รักษาคุณงามความดี รักษาโชคลาภเงินทองไม่ให้เสื่อมหาย (สาลี่ไม่นิยมนำมาไหว้บรรพบุรุษ และวิญญาณไร้ญาติ)
- ส้มสีทอง หมายถึง มหาสิริมงคล โชคดี ประสปแต่สิ่งดีๆ
- องุ่น หมายถึง ความเพิ่มพูน ความเจริญงอกงาม และการมีอายุยืนนาน
สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน
- ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้วิญญาณไม่มีญาติ โดยช่วงเช้า (07.00-08.00 น.) ควรไหว้เจ้าในบ้าน หรือ “ตี่จูเอี้ย” และช่วงสาย (09.00-12.00 น.) ไหว้บรรพบุรุษให้เรียบร้อย หลังจากนั้นในช่วงบ่าย (13.00-15.00 น.) จึงไหว้วิญญาณไม่มีญาติ
- ทำพิธีรับไฉ่ซิงเอี้ย ไฉ่ซิงเอี้ยเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ส่วนใหญ่จะทำพิธีระหว่างหลังเที่ยงคืนของวันซาจั๊บ จนถึงก่อนตี 1
- ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือคำอวยพรปีใหม่ ชาวจีนนิยมประดับป้ายคำอวยพร ซึ่งจะเขียนด้วยตัวอักษร 7 ตัว เป็นคำกลอน ส่วนมากจะอวยพรให้ทำมาค้าขึ้น มั่งมีเงินทอง โดยนำมาติดตามสองข้างประตูบ้าน และต้องมีอีก 1 แผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า “ชุก ยิบ เผ่ง อัง” ซึ่งมีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย
- กินเจมื้อเช้า เป็นมื้อแรกของปีใหม่ ในวันขึ้นปีใหม่จีน คนจีนจะกินเจมื้อแรกของปี เพราะเชื่อกันว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี
- เลือกใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส เปรียบได้กับเสริมความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต โดยเฉพาะสีแดงเป็นสีที่เป็นมงคลและนิยมมากที่สุด
- อวยพรผู้ใหญ่ ด้วยส้ม 4 ผล ตามประเพณีของชาวจีน ในวันตรุษจีนทุกคนจะนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ ซึ่งเจ้าของบ้านนั้นก็จะต้องรับส้มมา 2 ผล และนำส้มที่ตัวเองเตรียมไว้วางคืนลง 2 ผล พร้อมกับเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้ 1 พาน และสมอจีนไว้รับแขกที่มาอวยพรด้วย
- รับอั่งเปา วันตรุษจีนเป็นวันที่จะได้รับซองแดง พร้อมเงินขวัญถุงจากผู้ใหญ่ เพื่อให้โชคดีตลอดทั้งปี
- รวมญาติกินเกี๊ยว วันตรุษจีนถือเป็นวันรวมญาติของชาวจีน โดยทุกคนจะเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวในวันซาจั๊บมื้อสุดท้ายก่อนขึ้นปีใหม่ ที่เป็น “เกี๊ยว” ก็เพราะว่าลักษณะของเกี๊ยวเหมือนกับเงินของจีน จึงมีความหมายว่า ให้มั่งมีเงินทอง
การไหว้ไฉ่ซิงเอี้ยในวันตรุษจีน 2563
ชาวจีนเชื่อว่าเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ จะเสด็จมายังโลกมนุษย์เพียงปีละครั้ง คือ วันตรุษจีน ดังนั้นเมื่อเข้าสู่วันตรุษจีน ชาวจีนแต่โบราณจะทำการตั้งโต๊ะบูชาไฉ่ซิงเอี้ย เพื่อเสริมสิริมงคลรับปีนักษัตรใหม่ โดยแต่ละปีก็จะมีทิศที่เทพเจ้าองค์นี้เสด็จลงมาแตกต่างกันไป
สำหรับตรุษจีน 2563 ผู้ที่จะไหว้เทพไฉ่ซิงเอี้ยให้ตั้งโต๊ะบูชาหันหาทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทิศที่ท่านเสด็จผ่าน โดยเริ่มไหว้ในยามแรกของปี คือคืนวันที่ 24 มกราคม เวลา 23.00-01.00 น.
แต่มีข้อห้ามคือ ห้ามผู้ที่เกิดปีมะเมีย ซึ่งเป็นปีชงในปี 2563 ไหว้เป็นคนแรก (หากในบ้านมีแต่คนเกิดปีมะเมียทั้งหมด แนะนำให้ใช้ฤกษ์ไหว้เวลา 03.00-05.00 น. ของวันที่ 25 มกราคม แทน)
ทั้งนี้ ให้จัดของบูชา ประกอบด้วย ป้ายชื่อหรือองค์ไฉ่ซิงเอี้ย เทียนแดง 1 คู่ น้ำเปล่า น้ำชา 5 ที่ อี๊แดง หรือสาคูแดง เจฉ่าย 5 ชนิด ฟองเต้าหู้, วุ้นเส้น, เห็ดหูหนูดำหรือเห็ดหอม, เห็ดหูหนูขาว และดอกไม้จีน บางท่านอาจมีผลไม้ เพ้า ชุดกระดาษเงิน-กระดาษทอง และของตามกำลังศรัทธา
15 วันแห่งการฉลองตรุษจีน
- วันแรกของปีใหม่ เป็นการต้อนรับเทวดาแห่งสวรรค์และโลก หลายคนงดทานเนื้อ ในวันนี้ด้วยความเชื่อที่ว่าจะเป็นการต่ออายุและนำมาซึ่งความสุขในชีวิตให้กับตน
- วันที่สอง ชาวจีนจะไหว้บรรพชนและเทวดาทั้งหลาย และจะดีเป็นพิเศษกับสุนัข เลี้ยงดูให้ข้าวอาบ น้ำให้แก่มัน ด้วยเชื่อว่า วันที่สองนี้เป็นวันที่สุนัขเกิด
- วันที่สามและสี่ เป็นวันของบุตรเขยที่จะต้องทำความเคารพแก่พ่อตาแม่ยายของตน
- วันที่ห้า เรียกว่า พูวู ซึ่งวันนี้ทุกคนจะอยู่กับบ้านเพื่อต้อนรับการมาเยือน ของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ในวันนี้จะไม่มีใครไปเยี่ยมใครเพราะจะถือว่าเป็นการนำโชคร้าย มาแก่ทั้งสองฝ่าย
- วันที่หก- วันที่สิบ ชาวจีนจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของ ครอบครัว และไปวัดสวดมนต์เพื่อความร่ำรวยและความสุข
- วันที่เจ็ด ของตุรุษจีนเป็นวันที่ชาวนานำเอาผลผลิตของตนออกมา ชาวนาเหล่านี้จะทำน้ำที่ทำมาจากผักเจ็ดชนิดเพื่อฉลองวันนี้ วันที่เจ็ดถือเป็นวันเกิด ของมนุษย์ในวันนี้อาหารจะเป็น หมี่ซั่วกินเพื่อชีวิตที่ยาวนานและปลาดิบเพื่อความสำเร็จ
- วันที่แปด ชาวฟูเจียน จะมีการทานอาหารร่วมกันกับครอบครอบอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคนจะสวดมนต์ของพรจาก เทียนกง เทพแห่งสวรรค์
- วันที่เก้า จะสวดมนต์ไหว้และถวายอาหารแก่ เง็กเซียนฮ่องเต้
- วันที่สิบ – วันที่สิบสอง เป็นวันของเพื่อนและญาติๆ ซึ่งควรเชื้อเชิญมาทานอาหารเย็น
- วันที่สิบสามถือเป็นวันที่ควรทานข้าวธรรมดากับผักดอง ถือเป็นการชำระล้างร่างกาย หลังจากที่ทานอาหารอุดมไปด้วยความมันมาหลายวัน
- วันที่สิบสี่ เป็นวันเตรียมงานฉลองโคมไฟ
- วันที่สิบห้า คืนฉลองโคมไฟ
ความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน
ทุกคนจะไม่พูดคำหยาบหรือพูดคำที่ไม่เป็นมงคล ความหมายเป็นนัย และคำว่า สี่ ซึ่งออกเสียงคล้ายความตายก็จะต้องไม่พูดออกมา ต้องไม่มีการพูดถึงความตายหรือการใกล้ตาย และเรื่องผีสางเป็นเรื่องที่ต้องห้าม
เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในปีเก่าๆ ก็จะไม่เอามาพูดถึง ซึ่งการพูดควรมีแต่เรื่องอนาคต และทุกอย่างที่ดีกับปีใหม่และการเริ่มต้นใหม่
นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อกันว่า หากร้องไห้ในวันปีใหม่ ก็จะมีเรื่องเสียใจไปตลอดปี ดังนั้นแม้แต่เด็กดื้อที่ปฏิบัติตัวไม่ดีผู้ใหญ่ก็จะทน และไม่ตีสั่งสอน
สำหรับคนที่เชื่อโชคลางมากๆ ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปเยี่ยมเยียนเพื่อนหรือญาติ อาจมีการเชิญซินแส เพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสมในการออกจากบ้านและทางที่จะไปเพื่อ เป็นความเป็นสิริมงคล ทั้งบุคคลแรกที่พบ และคำพูดที่ได้ยินคำแรกของปี ก็มีความหมายสำคัญมาก ถือว่าจะส่งให้มีผลได้ตลอดทั้งปี การได้ยินนกร้องเพลงหรือเห็นนกสีแดงหรือนกนางแอ่น ถือเป็นโชคดีธรรมเนียมมาแต่เก่าก่อน เป็นการแสดงถึงความเป็นครอบครัวและเอกลักษณ์ของตน