นิด้าโพล เผยผลสำรวจ ประชาชน 36.22% ชี้รัฐไม่มีประสิทธิภาพแก้ปัญหาวิกฤติฝุ่นละลอง มีพียง 2.47% ที่มองว่ามีประสิทธิภาพมาก ขณะที่ส่วนใหญ่ หรือเกือบ 70% สวมหน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้าน
“นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การจัดการวิกฤตฝุ่นละออง” โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15 – 16 มกราคม 2563 จากประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,256 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการจัดการวิกฤติฝุ่นละอองในเขตกรุงเทพมหานคร
จากการสำรวจเมื่อถามถึงการปฏิบัติตัวเมื่อเผชิญปัญหาจากวิกฤตฝุ่นละอองของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่ 69.98% ระบุว่า สวมหน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้าน รองลงมา 21.50% ระบุว่า หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้าน, 10.59% ระบุว่า งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง, 6.61% ระบุว่า ใช้เครื่องฟอกอากาศ, 5.41% ระบุว่า ปิดประตู-หน้าต่างกันฝุ่น, 3.66% ระบุว่า ใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้ทำอะไรเลย
ขณะที่อีก 3.5% ระบุว่า ไม่สนใจ เพราะอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง, 3.18% ระบุว่า ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ, 2.23% ระบุว่า ไม่สนใจ เพราะเป็นปัญหาเล็ก ๆ, 1.83% ระบุว่า ไม่สนใจ เพราะคิดว่าร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานดี, 0.64% ระบุว่า เดินทางไปอยู่ต่างจังหวัดที่ไม่มีฝุ่น, 0.48% ระบุว่า ไม่ได้ทำอะไร เพราะไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้ออุปกรณ์ป้องกันฝุ่นละออง และ 0.32% ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ปลูกต้นไม้ ฉีดน้ำบริเวณรอบบ้าน ขณะที่บางส่วนระบุว่า ซื้อเครื่องตรวจจับค่า pm 2.5 มาใช้
ด้านประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ที่ 40.84 ระบุว่า ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ เพราะ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องยังแก้ไขได้ไม่ตรงจุด ทำงานไม่จริงจัง ไม่ต่อเนื่อง ควรมีมาตรการอย่างจริงจังที่เป็นรูปธรรมในการควบคุม ตามด้วย 36.22% ระบุว่า ไม่มีประสิทธิภาพเลย เพราะ การจัดการของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการตื่นตัว ไม่มีการเเก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรม ไม่มีความชัดเจน ปัญหายังเดิม ๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น งานก่อสร้างต่าง ๆ รถประจำทาง/รถส่วนตัวยังมีควันดำ
ในทางกลับกัน ผู้ตอบแบบสำรวจ 17.6% ระบุว่า ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ เพราะ มีการพ่นละอองน้ำเพื่อลดฝุ่น มีการแจ้งเตือนเขตพื้นที่สีแดง ทำให้ประชาชนได้เตรียมพร้อมรับมือ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไม่ได้เกี่ยวกับหน่วยงานภาครัฐ แต่เป็นที่ตัวบุคคลในการทำให้เกิดฝุ่นละออง ที่เหลือคือ 2.47% ระบุว่า มีประสิทธิภาพมาก เพราะ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมีการจัดการแก้ปัญหาที่ดี และ 2.87% ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงการมีส่วนช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่ 30.57% ระบุว่า ใช้บริการขนส่งสาธารณะแทนการขับรถส่วนตัว รองลงมา 24.2% ใช้วิธีฉีดน้ำล้างฝุ่นละอองหน้าบ้านตนเอง, 23.09% ระบุว่า หยุดเผาขยะ ใบไม้ เศษวัสดุ, 21.66% ระบุว่า ไม่มีส่วนช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง เพราะ การใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ทำอะไรหรือสร้างปัญหาอะไรเกี่ยวกับฝุ่นอยู่แต่ที่บ้าน/อาคารไม่ได้ไปไหน
ขณะที่ 16.96% ระบุว่า ดับเครื่องยนต์ ทุกครั้งเวลาจอดรถ, 8.2% ระบุว่า หยุดการจุดธูป ประทัด, 7.48% ระบุว่า นำรถไปเข้าอู่เพื่อแก้ไขปัญหาควันดำ, 2.23% ระบุว่า หยุดการก่อสร้าง และ3.5% ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ใช้รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน หรือเดินแทนการใช้รถยนต์ ปลูกต้นไม้ และอยู่บ้านเพื่อลดการใช้รถ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ลดการใช้รถที่เติมน้ำมันดีเซล เปลี่ยนมาใช้รถที่เติมน้ำมันเบนซิน หรือ E20 แทน
