นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส.เรียกร้องให้ตรวจสอบกรณีของ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เข้าร่วมประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งที่มีหมายจับของศาล ว่าตนได้ให้ทางสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว ว่าทำไมถึงปล่อยให้บุคคลที่มีคดีเข้ามายังสภาฯ และเข้ามาในห้องประชุมเพื่อดำเนินการเรื่องอะไร
ทั้งนี้วันดังกล่าวตนไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ไวพจน์ เข้ามาในห้องประชุมสภาฯจริงหรือไม่ เพราะไม่ได้ขึ้นทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เนื่องจากตนเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในช่วงเช้า การตรวจสอบดังกล่าวจะพิจารณาหลังจากที่ได้รับรายงานจากทางสภาฯ อีกครั้ง
เมื่อถามว่าจะตรวจสอบถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจรัฐสภา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ต้องรอการรายงานและตรวจสอบอีกครั้ง บุคคลที่มีคดีความแล้ว ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงปล่อยตัวและละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ในการเข้าประชุมสภาฯ นั้นยังถือว่าเป็นการใช้สิทธิตามสถานะของส.ส.ได้
สำหรับการปล่อยให้พ.ต.ท.ไวพจน์ เข้าสภาฯในช่วงที่ผ่านมาเกิดเสียงวิพากวิจารณ์อย่างหนัก แม้กระทั่ง นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ออกมาระบุว่ากรณี พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถูกศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับเพื่อนำตัวไปฟังคำพิพากษาในวันที่ 15 มกราคม2563 ได้มาปรากฏตัวในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นผู้ต้องหาที่กระทำความผิดโดยมีหมายจับชัดเจน เมื่อปรากฏตัวขึ้นเช่นนี้ ผู้มีหน้าที่จับกุมก็ต้องจับกุมตัวส่งศาลจังหวัดพัทยาให้ได้
นายเทพไท กล่าวต่อว่า เมื่อพ.ต.ท.ไวพจน์มาปรากฏตัวที่อาคารรัฐสภา จะต้องพิจารณาในข้อกฎหมายว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 หรือไม่ ซึ่งมาตรา 189 มีบทบัญญัติว่า ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
