เทรนด์การดูแลสุขภาพที่ส่งอานิสงค์ให้ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับกีฬาและการออกกำลังการเติบโตต่อเนื่อง รวมไปถึงธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าเสื้อผ้า รองเท้าและอุปกรณ์กีฬา อีกทั้งการขยายตัวของเมือง ทำให้ สปอร์ตมอลล์ ผู้จำหน่ายสินค้ากีฬา ต้องปรับโมเดลธุรกิจครั้งใหม่ ด้วยการมองหาทำเลใหม่ๆ เพื่อขยายธุรกิจในรูปแบบสแตนด์อโลน จากเดิมที่เน้นเปิดเคียงคู่ไปกับห้างในเครือเดอะมอลล์ เป็นหลัก
นายสุนทร สุรีย์เหลืองขจร ผู้จัดการทั่วไปบริหารสินค้าสปอร์ตมอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า จากปัจจุบัน การขยายตัวของเมืองและชุมชนใหม่ๆ รอบกรุงเทพ อีกทั้งการจราจรที่ติดขัด ทำให้เกิดการกระจายตัวของลูกค้าอย่างมาก และเป็นอุปสรรคสำหรับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการเลือกซื้อสินค้าที่สปอร์ตมอลล์ ที่เปิดอยู่ในห้างเดอะมอลล์ทุกสาขา บริษัทจึงศึกษาและเตรียมพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ สำหรับเปิดสาขาใหม่ในรูปแบบสแตนด์อโลน เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นและง่ายขึ้น
สำหรับคอนเซ็ปต์ของร้านรูปแบบสแตนด์อโลน จะอยู่นอกห้างเดอะมอลล์ เน้นในชุมชนใหม่ หรือเมืองใหม่ โดยที่แรกคาดว่าจะเป็นย่านบางใหญ่ ขนาดพื้นที่สำหรับคอนเซ็ปต์นี้ประมาณ 1,000 ตารางเมตร เน้นจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้ากีฬา รองเท้า กลุ่มไลฟ์สไตล์ เป็นหลัก โดยจะเน้นความหลากหลายของแบรนด์ให้ครบ รวมไปถึงพิจารณาความต้องการของลูกค้าในแต่ละทำเล เพื่อคัดเลือกสินค้าที่จะเข้าไปจำหน่ายได้ตรงความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ ร้านสแตนด์อโลน จะเปิดภายใต้ชื่อ “SNEAKER” บาย สปอร์ตมอลล์ และเริ่มทดลองเปิดร้านคอนเซ็ปต์ดังกล่าวเพื่อดูการตอบรับของกลุ่มลูกค้าในรูปแบบช็อป อิน ช็อป ที่ชั้น 2 โดยเปิดในสปอร์ตมอลล์ ห้างสยามพารากอน เพื่อใช้เป็นต้นแบบสำหรับเปิดร้านสแตนด์อโลนนอกห้างต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นสาขาแรกในปี 2563
ด้านนางสาววิภา อัมพุช ผู้จัดการใหญ่ สเปเชียล รีเทล ดีเวลลอปเมนท์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสปอร์ตมอลล์ ได้วางแผนทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท ในช่วง 3 ปี (ปี 2562-2564) โดยแบ่งเป็น 150 ล้านบาทสำหรับการปรับโฉมสปอร์ตมอลล์ สาขาสยามพารากอนใหม่ ซึ่งแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการแล้ว ที่เหลือเป็นการปรับโฉมสปอร์ตมอลล์สาขา งามวงศ์วานในปี 2562 ประมาณ 350 ล้านบาท และอีก 500 ล้านบาทจะใช้ในปี 2564 เพื่อรีโนเวทสาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ และอีกบางสาขารวม 500 ล้านบาท
ด้าน สปอร์ตมอลล์ โฉมใหม่ที่สยามพารากอน พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “THE HEART OF GLOBAL FLAGSHIP STORES FOR SPORT LIFESTYLE” รูปแบบใหม่ล่าสุดของประเทศไทย แบบวันสต็อบ ช้อปปิ้ง โดยเน้นการเป็นจุดศูนย์รวมสินค้ากีฬาจากแบรนด์ดังทั่วโลกกว่า 200 แบรนด์ครบทุกไลฟ์สไตล์ ทุกเพศ ทุกวัย ภายในพื้นที่เดียว บนพื้นที่กว่า 5,000 ตร.ม. เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และทุกความต้องการของคนรักสุขภาพ พร้อมตั้งเป้าเติบโตปี 2563 เติบโตกว่า 50%
พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดโซน “แฮชแท็ค สนีกเกอร์ ออฟฟิศ” (#SneakerOffice) เป็นตอบรับเทรนด์รองเท้าผ้าใบ หรือ “สนีกเกอร์” หนึ่งในแฟชั่นยอดฮิตตลอดกาล โดยรวบรวมสนีกเกอร์ เสื้อผ้าและแอสเซสเซอรี่จากกว่า 20 แบรนด์ จำนวนมากกว่า 500 รายการหมุนเวียนรุ่นพิเศษมาเอาใจคนรักสนีกเกอร์และเครื่องแต่งกายรวมไว้ในที่เดียว ซึ่งจะเป็นต้นแบบสำหรับการเปิดสาขาสแตนด์อโลนต่อไป
นอกจากนี้ยังสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ จากแบรนด์ชั้นนำ มาจำหน่ายเฉพาะที่ สปอร์ต มอลล์ พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ เท่านั้น อาทิ อาดิดาส ได้เปิด “อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์” โฉมใหม่ครั้งแรก ใน สปอร์ต มอลล์, ไนกี้ ออกแบบ คอนเซ็ปต์ สโตร์ ใหม่ เพิ่ม โดยความหลากหลายของคอลเลคชั่นทั้งในส่วนกลุ่มสินค้ากีฬาได้แก่ สินค้าประเภทวิ่ง, เทรนนิ่ง,บาสเกตบอล รวมถึงจอร์แดน คอลเลคชั่น เป็นต้น
สำหรับปี 2561 ที่ผ่านมา สปอร์ต มอลล์ มีรายได้รวม 3,700 ล้านบาท เติบโต 11% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 7% จากภาพรวมตลาดธุรกิจค้าปลีกกีฬาคาดเติบโตประมาณ 6%
