“เอกนิติ” เผย “กรมสรรพากร” จัดเก็บรายได้งบปี 62 ที่ 2 ล้านล้านบาท ทะลุเป้าครั้งแรกในรอบ 7 ปี ตั้งเป้าปีหน้าไว้ที่ 2.116 ล้านล้านบาท
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2562 (ต.ค.61-ก.ย.62) จัดเก็บรายได้เกินกว่าเป้าหมาย 9,310 ล้านบาท จากเป้าหมาย 2 ล้านล้านบาท ซึ่งเกินเป้าครั้งแรกในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2555 เนื่องจากมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีทำให้จัดเก็บรายได้มากขึ้น ทั้งในด้านการขยายฐานภาษี โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรม สามารถขยายฐานได้เพิ่มขึ้นเป็น 11.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มี 10 ล้านคน และตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปี จะขยายฐานบุคคลธรรมดาให้เข้าสู่ระบบภาษีให้ได้ 14 ล้านคน
ขณะที่การขยายฐานการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลภายใน 3 ปีจะเพิ่มเป็น 600,000 ราย จากปัจจุบันมีนิติบุคคลอยู่ในระบบฐานภาษี 460,000 ราย ซึ่งอีกเกือบ 200,000 รายที่จะนำเข้ามาสู่ระบบภาษีนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งนี้ในปี 2563 ตั้งเป้าจัดเก็บรายได้ 2.116 ล้านล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าของกองทุนหุ้นยั่งยืน (SEF) ที่จะมาแทน กองทุนรวมระยะยาว (LTF) นั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาในรายละเอียด เพื่อรอเสนอให้คณะทำงานศึกษาแนวทางการปฏิรูปโครงสร้างภาษี ที่มีปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานพิจารณา ซึ่งแนวทาง LTF ที่ผ่านมา กรมฯเห็นตรงกันกับผลวิจัยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ที่ระบุว่า LTF จะสร้างประโยชน์ให้กับผู้มีรายได้สูงถึง 60-70% ของผู้ใช้สิทธิ ซึ่งก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม ขณะที่ กองทุนใหม่มีหลายแนวทางที่ศึกษาแต่ต้องลดความเหลื่อมล้ำลง
นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า ได้สั่งสรรพากรพื้นที่ทั่วประเทศ ให้ข้อมูลกับผู้ประกอบการ ร้านค้า โรงแรม ร้านค้าโอท็อปที่เข้าร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้” เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าผู้ที่อยู่ในโครงการดังกล่าว กรมฯจะไม่นำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาการจัดเก็บภาษีเพิ่ม ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามนโยบายของ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะทำให้ผู้ประกอบการมีความเข้าใจ และยินยอมที่จะรับชำระเงินจากกระเป๋า 2 ในโครงการด้วย
