เปิดยอด “โซลาร์ภาคประชาชน” 6 เดือน 1 เมกะวัตต์ ต่ำกว่าเป้าหมายที่จะรับซื้อ 100 เมกะวัตต์ต่อปี สนพ.คาด 3 สาเหตุประชาชนเมิน
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน แจ้งว่าสำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar PV Rooftop ) สำหรับประชาชน หรือ ” โซลาร์ภาคประชาชน” ที่ให้ครัวเรือนผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) หากเหลือสามารถขายไฟฟ้าเข้าระบบ รับซื้อที่ราคา 1.68 บาทต่อหน่วยเป็นระยะเวลา 10 ปี
จากข้อมูลล่าสุด จนถึง 22 ตุลาคม 2562 มีผู้ผ่านเกณฑ์เงื่อนไข และทำสัญญารับซื้อ 184 ราย จำนวน 1,045.554 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 1 เมกะวัตต์ เป็นของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 139 ราย 800.214 กิโลวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 45 ราย 245.34 กิโลวัตต์
โดยพบว่ามีประชาชนตกเกณฑ์เงื่อนไขจำนวนมาก จากผู้ลงทะเบียน 2,246 ราย ผ่านเกณฑ์เพียง 406 ราย สาเหตุสำคัญที่ประชาชนตกเกณฑ์ เพราะระบบสายส่งไม่สามารถรองรับได้ หรือบ้านที่จะติดตั้งอยู่ไกลแนวสายส่ง
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวถึงความคืบหน้าโซลาร์ภาคประชาชนว่า โครงการนี้มีกำหนดรับซื้อ 10,000 เมกะวัตต์ หรือ ปีละ 100 เมกะวัตต์ เป็นเวลา 10 ปี แต่มีประชาชนเข้าร่วมโครงการน้อยจนถึงล่าสุดประมาณ 1 เมกะวัตต์เท่่านั้น จึงคาดว่าจะมีการปรับเป้าหมายของโครงการนี้ลดลง
ทั้งนี้ที่ประชาชนไม่เข้าโครงการ น่าจะมาจาก 3 สาเหตุหลักๆ คือ 1.ราคารับซื้อไฟฟ้าไม่จูงใจ 2.ปัญหาการประชาสัมพันธ์ และ 3.การเปิดโครงการกระชั้นชิดเกินไป
โดยจะต้องมาหารือกันต่อไปว่าจะปรับลดลงอย่างไร ซึ่งนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คงจะมีการมอบนโยบายหลังจากนี้ ซึ่งหน่วยงานหลักในการศึกษาปรับปรุงอยู่ที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)
ทั้งนี้จะมีการนำสัดส่วนเป้าหมายที่ลดลง มาเกลี่ยเพิ่มในส่วนของเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ และชีวมวล รองรับโรงไฟฟ้าชุมชน และการปรับปรุงทั้งหมดจะเป็นส่วนหนึ่งของการปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) ฉบับปี 2018 ซึ่งมีกำหนดเวลาแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน หรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563
โครงการ “โซลาร์ภาคประชาชน” เกิดขึ้นในยุคที่ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีกกพ. เป็นหน่วยงานติดตามดูแล เป้าหมายเพื่อส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในบ้านเรือน ปีละ 100 เมกะวัตต์ 10 ปี รวม 10,000 เมกะวัตต์ ประกาศให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2562
โดยประชาชนที่ไม่เข้าร่วมโครงการต่างระบุว่า ไม่คุ้ม เพราะค่าติดตั้งสูงหลายแสนบาท และบางบ้านต้องเปลี่ยนหลังคาก่อน เพื่อให้สามารถรับน้ำหนักแผงโซล่าร์เซลล์ได้ ขณะที่ค่าไฟฟ้าที่รับซื้อ 1.68 บาทต่อหน่วย ซึ่งต่ำเกินไป นอกจากนี้ยังรับซื้อระยะเวลา 10 ปีเท่านั้น ทั้งที่แผงโซลาร์เซลล์มีอายุการใช้งานประมาณ 20-25 ปี ส่วนผู้ที่สนใจเข้าโครงการจำนวนมาก ต่างบอกว่าไม่สามารถเข้าโครงการได้ เพราะได้รับแจ้งจาก 2 การไฟฟ้าว่า สายส่งเต็ม
สำหรับการประชาสัมพันธ์ โครงการนี้สำนักงานกกพ.ได้จัดสรรเงินจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ตามมาตรา 97 (5) งบประจำปี 2562 ที่มีวงเงินรวม 685 ล้านบาท โดยนำส่วนหนึ่งของงบดังกล่าว มาช่วยประชาสัมพันธ์ ผ่านโครงการ “ไฟจากฟ้า”
