3 นักเตะไทยลีกสายพันธุ์ใต้ “จักรกฤษณ์ วิเศษรัตน์” ผู้รักษาประตูจากสโมสรสุราษฎร์ธานี ซิตี้ “ณัฐชนน สร้อยจิตร” ปัจจุบันสังกัดทีมนครศรี ยูไนเต็ด และ “จักรวุฒิ เมฆวัน” สังกัดทีมสยาม เอฟซี เข้าร่วมวิ่งในงาน ‘ก้าวต่อไปด้วยพลังเล็กๆ’ ภาคใต้ เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลในภาคใต้ฝั่งอันดามันทั้งหมด 7 แห่ง ระหว่างวันที่ 24-27 ตุลาคม ที่ผ่านมา
นักฟุตบอลทั้ง 3 คนนี้ ต่างผ่านการปลุกปั้นมาจากโครงการ Fox Hunt รุ่นที่ 1 ของคิง เพาเวอร์ ที่ผลิตนักฟุตบอลฝีเท้าดีประดับวงการไทยลีก ซึ่ง จักรกฤษณ์ กล่าวว่า
“ผมมีพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกาย และเทคนิคในการเล่นฟุตบอลที่ดีขึ้นมาก เพราะผมได้รับโอกาสจากคิง เพาเวอร์ ไปฝึกทักษะด้านกีฬาฟุตบอลในสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ กลับมาผมก็ได้สานต่อเส้นทางฝันก้าวมาเป็นผู้รักษาประตูของไทยลีก ดังนั้น การที่ผมอยากจะมาวิ่งในงาน ‘ก้าวต่อไปด้วยพลังเล็กๆ’ ภาคใต้ ครั้งนี้ เพราะผมอยากส่งต่อโอกาสให้คนอื่นๆ ให้เหมือนกับที่ผมเคยได้รับโอกาสในการสานต่อความฝันด้านกีฬาฟุตบอล เพราะเชื่อว่า การมีส่วนร่วมในการสร้างโอกาสที่หลายต่อหลายคนรอคอย คือการสร้างความสุขที่แท้จริงครับ”
ขณะที่ ณัฐชนน บอกว่า โอกาสที่ได้รับจาก คิง เพาเวอร์ เป็นแรงบันดาลใจให้อยากเป็นพลังเล็กๆ ในการร่วมส่งต่อโอกาสดีๆ ให้กับคนใต้ด้วยกัน
“ผมเคยได้รับโอกาสดีๆ จากคิง เพาเวอร์ มาแล้ว ผมรู้ว่าโอกาสสามารถเปลี่ยนชีวิตได้มากแค่ไหน ดังนั้น เมื่อโอกาสมาถึงคนภาคใต้แล้ว ผมจึงอยากมาช่วยวิ่งให้เต็มที่ เต็มกำลัง เพราะที่สุดแล้วเมื่อโรงพยาบาลในภาคใต้มีอุปกรณ์การแพทย์ที่ดีขึ้น จะช่วยเปลี่ยนชีวิตให้ทุกคนดีขึ้นเช่นกันครับ”
นักเตะ Fox Hunt รุ่นที่ 1 ทั้ง 3 คน ได้ร่วมวิ่งไปพร้อมกับพนักงานกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งได้เริ่มปล่อยตัวจากจุดสตาร์ทที่ คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต ในช่วงเช้าของวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเริ่มวิ่งเซตแรกที่ระยะทางประมาณ 5.8 กิโลเมตร และมาวิ่ง Mini Marathon อีกครั้งในช่วงเวลา 16.00 น. เส้นทางจากลากูน่าโกรฟ – ซาน่าบีชคลับ
สำหรับยอดบริจาคช่วยเหลือ 7 โรงพยาบาลชุมชน จากการวิ่งในครั้งนี้ รวมทั้งสิ้น 36,000,000 บาท (ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2562) โดยจะถูกแบ่งไปช่วยเหลือทั้ง 7 โรงพยาบาล ประกอบด้วย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สายบุรี จังหวัดปัตตานี, โรงพยาบาลตรัง จังหวัดตรัง, โรงพยาบาลกระบี่ จังหวัดกระบี่, โรงพยาบาลตะกั่วป่า จังหวัดพังงา, โรงพยาบาลพังงา จังหวัดพังงา, โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครศรีธรรมราช และโรงพยาบาลวชิระ จังหวัดภูเก็ต