Technology

เล็งเปิด ‘หัวเว่ย อะคาเดมี’ สร้างคนไอที พัฒนา ‘อีโคซิสเต็มอุตสาหกรรม’

ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 3 หลังจากเปิดดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาครบ 20 ปี หัวเว่ยประเทศไทย ประกาศเดินหน้าลงทุนในไทยต่อเนื่อง พร้อมวางแผนผลักดันอีโคซิสเต็มเชื่อมประเทศไทยสู่ยุค 4.0 เตรียมเปิด “หัวเว่ย อะคาเดมี” พัฒนาคนไอทีร่วมนำประเทศไทยสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0

นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย
อาเบล เติ้ง

นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีสำคัญของหัวเว่ย ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยครบรอบ 20 ปี นับแต่ก่อตั้งสำนักงานในประเทศไทยในปี 2542 ซึ่งในทศวรรษที่ 3 นี้หัวเว่ยจะเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีในประเทศไทย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์ของหัวเว่ย ในการส่งมอบเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่คนไทยทุกคน ทุกครัวเรือนและทุกองค์กร เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างไร้รอยต่อในโลกแห่งนวัตกรรม

หัวเว่ยมองว่า กุญแจสำคัญที่จะนำศักยภาพด้านนวัตกรรมมาสู่ประเทศไทย คือบุคลากรที่มีความสามารถ และกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลก็คือ อีโคซิสเต็มของอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบของหัวเว่ยในการส่งเสริมและสนับสนุนประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การสานพลังนวัตกรรม เชื่อมไทยสู่อนาคต ร่วมกัน

Huawei OpenLab Bangkok

ดังนั้นในส่วนของการพัฒนาคน หัวเว่ยเตรียมเปิดตัว “หัวเว่ย อะเคเดมี” ในประเทศไทย เพื่อเฟ้นหาและส่งเสริมบุคลากรที่มีทักษะด้านไอซีที พร้อมส่งเสริมให้ประเทศเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 และด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยอย่างคลาวด์ เอไอ และซูเปอร์คอมพิวติ้ง หัวเว่ยจะสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลได้ทั้งในส่วนขององค์กรภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม ช่วยส่งเสริมนวัตกรรมให้แก่บริษัทสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี บ่มเพาะให้เกิดอีโคซิสเต็มแห่งนวัตกรรมบนรากฐาน 5G และขับเคลื่อนความสามารถด้านนวัตกรรมของไทยจากระดับรากฐาน

ขณะที่ในส่วนของอีโคซิสเต็มอุตสาหกรรมนั้น หัวเว่ยได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทย ภายใต้หัวข้อ “”อบรมส่งเสริมด้านทักษะดิจิทัลเพื่อนำไปสู่สังคมแห่งนวัตกรรมที่ยั่งยืน” ซึ่งหัวเว่ยจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการแบ่งปันและถ่ายทอดความรู้ความเชี่ยวชาญ ผ่านการทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยและองค์กรต่างๆ ในอุตสาหกรรม เพื่อเสริมศักยภาพด้านไอซีทีให้แก่บุคลากรดิจิทัล พร้อมเร่งเครื่องนำประเทศไทยไปสู่ไทยแลนด์ 4.0

Pic Huawei OpenLab Bangkok

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราจึงมีความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้ง และตระหนักดีกว่านวัตกรรมที่สร้างอนาคตของประเทศไทยมีความสำคัญอย่างไร โดยหัวเว่ยมีบทบาทสำคัญในการช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีให้แก่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงข่าย 2G, 3G และ 4G ในประเทศไทยได้สำเร็จ และยังเป็นผู้นำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในด้านต่างๆ อีกด้วย”

ทั้งนี้ เทคโนโลยี 5G จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาด้านเอไอหรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะส่งเสริมการขับเคลื่อนไปข้างหน้าของประเทศไทยให้เร็วยิ่งขึ้นกว่าประเทศอื่นได้ โดย 5G คลาวด์และเอไอจะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเราก็เคารพในความเป็นอธิปไตยด้านดิจิทัลของประเทศไทย ในการส่งเสริมนวัตกรรมให้แก่บริษัทสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี บ่มเพาะให้เกิดอีโคซิสเต็มแห่งนวัตกรรมผ่านแพลตฟอร์มระบบเปิดของหัวเว่ย เพื่อร่วมมือกันสร้างอีโคซิสเต็มของภาคอุตสาหกรรมเพื่อสังคมอัจฉริยะที่เชื่อมต่ออย่างไร้ที่ติในอนาคต

นอกจากการเป็นศูนย์กลางในการดำเนินธุรกิจของหัวเว่ยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หัวเว่ยยังได้เปิดศูนย์ OpenLab ในกรุงเทพมหานคร ศูนย์คลาวด์ ดาต้า รวมถึง 5G Testbed เป็นต้น โดยปัจจุบัน หัวเว่ยได้จ้างงานบุคลากรในประเทศไทยถึง 3,200 คน ซึ่งมีถึง 75% ที่เป็นคนไทย c]tในปี 2561 การจัดซื้อจัดจ้างของหัวเว่ยในประเทศไทยคิดเป็นมูลค่าถึง 196 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Avatar photo