World News

สหรัฐขยายสนามรบการค้า พุ่งเป้า ‘อียู’ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้า 7 .5 พันล้านดอลล์

สหรัฐประกาศวานนี้ (3 ต.ค.) เตรียมขึ้นภาษีนำเข้า 10% ต่อเครื่องบินแอร์บัส ที่ผลิตในยุโรป และ 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (อียู) ครอบคลุมถึง ไวน์ วิสกี้ และชีส ระบุ เพื่อเป็นการตอบโต้ต่อการที่อียูอุดหนุนการผลิตเครื่องบินอย่างผิดกฎหมาย

f33892f45bb4db269de9cbff9a3e4491

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ไฟเขียวให้สหรัฐขึ้นภาษีทุ่มตลาดต่อสินค้าอียูมูลค่า 7,500 ล้านดอลลาร์ได้ ในการต่อสู้คดีการอุดหนุนไม่เป็นธรรมที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน และยังเป็นการเคลื่อนไหวที่มีแนวโน้มจุดชนวนให้เกิดการทำสงครามการค้าข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกด้วย

สินค้าจากอียู ที่ตกเป็นเป้าการขึ้นภาษี และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคมนี้ ตามที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐเปิดเผยรายชื่อออกมานั้น รวมถึง เครื่องบินแอร์บัสขนาดใหญ่ ที่ผลิตในฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี และสเปน 4 ประเทศที่ร่วมลงทุนในแอร์บัส แต่ไม่มีการขึ้นภาษีต่อชิ้นส่วนเครื่องบินที่ผลิตในยุโรป และใช้ในการประกอบเครื่องบินที่โรงงานผลิตเครื่องบินของแอร์บัส ในรัฐแอละบามา หรือที่โบอิง ผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐ ใช้ในการผลิตเครื่องบินแต่อย่างใด ซึ่งจะช่วยปกป้องตำแหน่งงานในภาคการผลิตของสหรัฐไว้ได้

“ในที่สุด หลังจากที่เป็นคดีความกันมา 15 ปี ดับเบิลยูทีโอบยืนยันแล้วว่า สหรัฐมีสิทธิ์กำหนดมาตรการตอบโต้ต่อการอุดหนุนอย่างผิดกฎหมายของอียูได้” นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ แถลง และว่า สหรัฐคาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการเจรจากับอียู เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ด้วยวิธีที่จะเป็นประโยชน์ต่อแรงงานอเมริกัน

การขึ้นภาษีนำเข้าดังกล่าว ยังเน้นไปที่สินค้าจาก 4 ประเทศ ที่ลงทุนในแอร์บัส รวมถึง มะกอกจากสเปน เสื้อกันหนาวและผ้าขนสัตว์อังกฤษ เครื่องมือช่าง และกาแฟจากเยอรมนี นอกเหนือจากวิสกี้อังกฤษ ไวน์ฝรั่งเศส และชีสจากเกือบทุกประเทศสมาชิกอียู ที่จะโดนจัดเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มอีก 25% แต่ไวน์ และน้ำมันมะกอกจากอิตาลี รวมถึง ช็อกโกแลตยุโรป รอดจากมาตรการนี้

Airbus

อย่างไรก็ดี มูลค่าของสินค้าที่โดนจัดเก็บภาษีนำเข้าในครั้งนี้ ลดลงอย่างมากจากที่รัฐบาลสหรัฐกำหนดไว้ในช่วงต้นปีนี้ที่ 25,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสินค้าที่ตกเป็นเป้าในครั้งนั้น รวมถึง เฮลิคอปเตอร์ ชิ้นส่วนเครื่องบิน อาหารทะเล และสินค้าหรูหรา

แหล่งข่าววงในรายหนึ่ง ระบุว่า การที่ยูเอสทีอาร์ตัดสินใจไม่ขึ้นภาษีอย่างเต็มที่ ตามที่ได้รับอนุมัติจากดับเบิลยูทีโอนั้น ก็เพื่อกดดันให้อียูเข้าสู่โต๊ะเจรจา

Avatar photo