Digital Economy

พร้อมหรือยังกับ 10 ความเปลี่ยนแปลงจาก 5G ที่ต้องรับมือ

03
พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ

เป็นอีกหนึ่งงานสัมมนาที่ฉายภาพของโลกยุค 5G ได้ดีอีกงานหนึ่งสำหรับ “VR5G” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกับ บริษัท เอส สแควร์ แมกกาซีน จำกัด ที่เปรียบสถานะของประเทศไทยกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันว่าเราเหมือนเรือลำเล็ก ๆ ที่กำลังแล่นอยู่ในคลองเล็ก ๆ และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เมื่อ 5G มาถึง จากคลองเล็ก ๆ ที่เรือพายกันแน่นขนัด จะกลายเป็นผืนทะเลกว้างใหญ่ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น เรือลำนี้จะต้องการปัจจัยอะไรบ้างเพื่อให้ตนเองแข็งแกร่งมากพอจะเดินหน้าต่อไป หรือแข็งแกร่งพอเมื่อต้องเจอกับปลาวาฬตัวใหญ่ ๆ เราคงต้องมาติดตามกัน

โดยก่อนการมาถึงของ 5G สิ่งที่มาก่อนอย่างเทคโนโลยี 4G ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคนไทยไปแล้วอย่างมากมาย หลายคนยังคงจำได้ว่า ก่อนที่ 4G จะมาถึงครั้งนั้น บริษัทด้านโทรคมนาคมได้เคยพยากรณ์เอาไว้ว่า ระบบนิเวศน์ของ 4G จะทำให้รูปแบบในการใช้งานสื่ออินเทอร์เน็ตเปลี่ยนไปขนานใหญ่ การโอนถ่ายข้อมูลระดับเมกะบิตต่อวินาทีจะเกิดขึ้น เราสามารถรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่ พร้อม ๆ กับการทำงานต่าง ๆ ได้ในเวลาเดียวกัน และทุกวันนี้ เราต่างถูกกลืนเข้าไปอยู่ในระบบนิเวศน์เหล่านั้นไปแล้วโดยไม่รู้ตัว

แล้วสำหรับยุค 5G จะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ผู้บรรยายในหัวข้อ 5G, VR, AR – Thailand Journey 2018 and Beyond ให้ทัศนะว่า โลกจะเข้าสู่ยุคของการโอนถ่ายข้อมูลในระดับกิกะบิตต่อวินาทีในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า และจะก้าวไปสู่ระดับ 500 กิกะบิตต่อวินาทีภายในปี 2025 หรือ พ.ศ. 2568 และไม่เกินปี 2030 หรือ พ.ศ. 2573 เราจะทำงานกันบนเครือข่ายที่มีความเร็วระดับ 20 กิกะบิตต่อวินาที

ความเร็วที่เพิ่มขึ้นจะทำให้มนุษย์เราลงมือทำงานได้อีกหลายสิ่งหลายอย่างบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น ความสามารถในการสร้างสื่อแบบเสมือนจริงของตัวเองได้อย่างง่ายดาย และยังทำให้รูปแบบการจับจ่ายใช้สอย การทำธุรกรรมทางการเงิน การรักษาพยาบาล การอยู่อาศัย พลังงาน ฯลฯ เปลี่ยนไปอย่างพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ

10 ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

02

สิ่งที่เปลี่ยนไปอีกข้อคือ สภาพแวดล้อมบนอินเทอร์เน็ตก็เปลี่ยนไปด้วย เช่น รูปแบบการจัดเก็บข้อมูลที่แผนภาพนี้แสดงให้เห็นว่า ในช่วง 35 ปีที่ผ่านมา รูปแบบการจัดเก็บข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก จากอุปกรณ์เช่นแผ่นซีดี – ดีวีดี ฮาร์ดดิสก์ หรือหน่วยเก็บข้อมูลแบบแฟลช ที่เราคุ้นเคยและมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย มาถึงวันนี้จะเริ่มหายไป และเปลี่ยนสู่การจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากนั้นแล้วยังมีอีกหลายเทรนด์ที่จะเข้ามา ยกตัวอย่างเช่น การรับชมคอนเทนต์วิดีโอที่คาดการณ์ว่าภายในปีนี้ จะเติบโตขึ้นแตะ 83,299 เพตาไบท์ต่อเดือน และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย (ดังภาพ)
04ความเร็วอินเทอร์เน็ตเพิ่ม

05

ตัวเลขการใช้งานอุปกรณ์โมบายล์เพิ่มแซงหน้าจำนวนประชากร
06

เครื่องมือใหม่อย่างโดรนก็มา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ โดรนเคยใช้งานเฉพาะในทางการทหาร แต่ปัจจุบันจะเริ่มเห็นโดรนเพื่อการพาณิชย์มากขึ้น โดยคาดว่าจะมีปริมาณโดรนสำหรับตลาดคอนซูเมอร์แตะ 29 ล้านเครื่องในปี 2564

07

IoT เป็นสิ่งที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ตามการคาดการณ์ของหลาย ๆ ฝ่าย รวมถึง ดร.เศรษฐพงค์ ด้วย โดยในปี 2563 เราจะมีการใช้งาน IoT เพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ล้านชิ้น จากการมาถึงของเมืองอัจฉริยะ และทำให้อัตราการเติบโตของ IoT แซงหน้าการเติบโตของบรรดาอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและโทรศัพท์มือถือไปอย่างขาดลอย

07 1

จะมีการใช้งานโรโบติกส์มากขึ้น เนื่องจากประชากรโลกในอนาคตเป็นคนวัยชรามากขึ้น ขณะที่อัตราการเกิดน้อยลง ผลก็คือ การนำหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้งานจะเพิ่มสูงขึ้นมากเพื่อทดแทนแรงงานวัยกลางคนที่ลดลง สำหรับมูลค่าของตลาดโรโบติกส์นั้นคาดว่าจะอยู่ที่ 67,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2568

08

รถยนต์ไฟฟ้าก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเพราะเทรนด์รักษ์โลกเป็นตัวนำหรืออย่างไร แต่ยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าในทุกวันนี้ต้องบอกว่าเริ่มมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลาย ๆ ค่าย สามารถขายรถยนต์ไฟฟ้าได้หลายแสนคัน และคาดว่าจะขายได้มากถึง 6 ล้านคันต่อปีใน พ.ศ. 2568 ด้วย

09รถยนต์ที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองก็เติบโต เนื่องจากการมาถึงของ 5G ช่วยให้การเชื่อมต่อกับรถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงมีการคาดการณ์กันว่า ยอดขายของรถยนต์ที่มีระบบดังกล่าวติดตั้งจะเพิ่มเป็น 569,000 คันในปี 2568
10 2

สุดท้ายก็คือ ปัญญาประดิษฐ์ ที่เรา ๆ ท่าน ๆ จะต้องเตรียมตัวพบกับ “ซูเปอร์ปัญญาประดิษฐ์” ในอีกไม่ช้านี้ (หลังปี 2563 ไปแล้ว)
11 6

ทั้งหมดนี้ ความเร็วระดับกิกะบิตต่อวินาทีถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง และภาพของการเปลี่ยนแปลงจะเห็นอย่างชัดเจนมากขึ้นในช่วงปี 2573

โดยภาคธุรกิจของไทยที่เริ่มนำร่องไปบ้างแล้วนั้น อาจมีชื่อของแสนสิริ – เอไอเอสปรากฏอยู่ด้วย ดร.ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยีและวิเคราะห์ข้อมูล (CTO) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เทคโนโลยีสามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในยุคดิจิทัลและเติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้านได้ โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แสนสิริเปิดตัวนวัตกรรม VR/AR มาใช้ในการเปิดมิติใหม่ของการอยู่อาศัย ด้วยการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริงเข้าไว้ด้วยกัน จำลองสภาพแวดล้อมให้ลูกค้าได้สัมผัสบรรยากาศของโครงการที่พักอาศัยได้แบบอินเตอร์แอคทีฟ ด้วยฟังก์ชั่นในการออกแบบและปรับเปลี่ยนห้องตัวอย่างได้ในทุกมุมมอง ซึ่งนวัตกรรม VR/AR จะช่วยสร้างความแปลกใหม่และยกระดับประสบการณ์การซื้อที่อยู่อาศัยในวงการอสังหาริมทรัพย์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ส่วนทางด้าน นายอราคิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายงานพัฒนาบริการ แอพพลิเคชันโทรคมนาคมและเครือข่าย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้คนจึงมักจะคิดถึง AIS ในรูปแบบของการให้บริการการสื่อสารทางเสียง ข้อความ อินเทอร์เน็ต คอนเทนต์และอื่นๆ แต่ด้วยศักยภาพของ Network เข้าสู่ยุค 5G ที่ตอบสนองเทคโนโลยีอย่าง VR, AR, และ MR ได้เป็นอย่างดีนั้น เชื่อว่าจะทำให้ผู้บริโภคได้เห็นความสามารถของเอไอเอสในอีกหลาย ๆ รูปแบบ

ในขณะเดียวกัน นายไพโรจน์ ไววานิชกิจ Vice Chairman VVR Group ย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในปัจจุบันอย่าง Virtual Reality (VR), Augmented Reality (AR), Mixed Reality (MR) และ Innowality Reality Technologies ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมากจากอดีต โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ด้านการศึกษา ความบันเทิง อุตสาหกรรม สาธารณสุข การกีฬา การทหารและกิจการเพื่อความมั่นคง เป็นต้น

สุดท้ายกับนายวรภัทร ภัทรธรรม ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนานโยบายสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยี VR ได้อย่างน่าสนใจว่า ผลกระทบจากการเข้ามาของยุคดิจิทัล ไม่ใช่แค่การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันและระบบคลาวด์แบบเรียลไทม์เท่านั้น แต่ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญได้ด้วย ซึ่งการขยายตัวของ VR รวมถึเทคโนโลยีที่เติบโตนั้นจะทำให้เกิดประสบการณ์ใหม่ๆ ส่งมอบแก่ผู้บริโภคได้มากขึ้น

สำหรับหลาย ๆ คนที่เกิดและเติบโตโดยมีภาพทั้งหมดให้เห็นมาตั้งแต่ต้น มันอาจเป็นการยากที่จะคาดการณ์ต่อไปว่า ในปี 2573 – 2580 โลกของเราจะเปลี่ยนไปเช่นไร แต่ข้อมูลการเติบโตของแต่ละอุตสาหกรรมเหล่านี้ น่าจะพอช่วยในการวิเคราะห์โลกอนาคตได้ และอาจทำให้เราเตรียมตัวรับมือกับสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นได้อย่างเข้าใจมากขึ้น

Avatar photo