คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกสยังเดินหน้าทำผลงานยอดเยี่ยมต่อเนื่องแม้จะมีวัยย่างสู่ขวบปีที่ 34 แล้วก็ตามหลังล่าสุดซัดคนเดียว 4 ประตู ช่วยทัพ “ฝอยทอง” บุกถล่ม ลิทัวเนีย 5-1 ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” รอบคัดเลือก กลุ่ม บี เมื่อวันอังคารที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา
จากการลงเล่นเกมเมื่อคืนนี้และโชว์ฝีเท้าดาวยิงที่เฉียบคมทำให้ CR7 ทำสถิติที่น่าสนใจหลายอย่างเกิดขึ้นทั้งลงเล่นรับใช้ทีมชาติไปแล้ว 160 นัดซึ่งเป็นสถิติลงเล่นมากที่สุดตลอดกาลของทีมชาติโปรตุเกส โดยอันดับสองเป็นหลุยส์ ฟิโก้ อดีตจอมทัพเบอร์7 ที่ลงเล่นไป 127 เกม ส่วนนักเตะที่ยังค้าแข้งอยู่แล้วลงเล่นเป็นรองโรนัลโด้ คือ โชเอา มูตินโญ่ (117), นานี่ (112), เปเป้ (106)
และจากการซัด 4 ตุงในเกมนี้เป็นการกดแฮตทริกครั้งที่ 54 ตลอดชีวิตการค้าแข้งโดยแบ่งเป็นกับทีมชาติโปรตุเกส 8 ครั้ง และ 46 ครั้งในระดับสโมสร รวมทั้งทำให้สะสมยอดยิงประตูในสีเสื่อทีมชาติโปรตุเกมเป็น 93 ลูกซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติโปรตุเกสโดยคนที่มีสถิติามมาอย่างเปาเลต้า (47),ยูเซบิโอ (41) หรือ หลุยส์ ฟิโก้ (32)ต่างเลิกเล่นไปหมดแล้ว
นอกจากนี้โรนัลโด้ ยังก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุด (24 ลูก) ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบคัดเลือก โดยแซงหน้าเจ้าของสถิติเดิมอย่าง ร็อบบี้ คีน อดีตดาวยิงทีมชาติไอร์แลนด์ ที่ยิงไป 23 ตุง
ทั้งนี้ลิทัวเนีย กลายเป็นประเทศลำดับที่ 12 ที่โรนัลโด้บุกมากดแฮตทริกได้ถึงที่ (รวมทั้งการเล่นระดับสโมสรและทีมชาติ) ต่อจาก โปรตุเกส, อิตาลี, รัสเซีย, สเปน, ญี่ปุ่น, อาร์เมเนีย, สวีเดน, ตุรกี, ไอร์แลนด์เหนือ, ฮอลแลนด์ และ อังกฤษ
Uma mão cheia de golos 🖐⚽ em mais um vitória crucial da Seleção: vê todos, aqui! #TodosPortugal pic.twitter.com/YyFLd2tMGy
— Portugal (@selecaoportugal) September 10, 2019
