ทีมชาติไทย ทำผลงานคัดบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย สุดหรูยกพลบุกชนะ อินโดนีเซีย 3-0 เป็น 3 คะแนนแรกในยุค อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่นคุมทัพทำให้ลงเตะนัดสองมี 4 แต้ม ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของ กลุ่ม จี
เกมนี้ นิชิโนะ ปรับทัพ 2 จุดจากชุดเสมอ เวียดนาม โดยให้โอกาสดาวรุ่ง เอกนิษฐ์ ปัญญา ประเดิมสนาม ขณะที่ ศุภชัย ใจเด็ด ยืนปักหลักกองหน้า แทนที่ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่เจ็บไป และ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่หลุดไปเป็นสำรอง โดยรายชื่อ 11 ตัวจริงผู้เล่นทีมชาติไทยประกอบด้วย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน(C),ธีราทร บุญมาทัน,พรรษา เหมวิบูลย์,มานูเอล ทอม เบียห์ร,ทริสตอง โด,สารัช อยู่เย็น,พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล,ชนาธิป สรงกระสินธ์,สุภโชค สารชาติ,เอกนิษฐ์ ปัญญา และ ศุภชัย ใจเด็ด
โดยตลอดเกมเป็นทีมไทยที่เล่นได้เหนือกว่าสร้างโอกาสบยิงได้หลายหนแต่ยังไม่เฉียบคมกันเองจนกระทั่งนาที 55 สุภโชค สารชาติ กระชากตัดเข้าในก่อนปั่นด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลพุ่งเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงามให้ทีมชาติไทย บุกนำ อินโดฯ 1-0
จากนั้นนาที 63 ทีมชาติไทยมาได้จุดโทษเมื่อ อันดรีตานี ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นไปเสียบใส่ สุภโชค ล้มในเขตโทษผู้ตัดสินเป่าให้ทันที ก่อนจะเป็น ธีราทร บุญมาทัน รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ทีมชาติไทย นำห่าง 2-0
นาที 73 สกอร์ไหลเป็น 3-0 เมื่อสุภโชค จ่ายให้ ธีราทร ก่อนที่จะตบเข้ากลางกลับมาให้ สุภโชค จับหนึ่งจังหวะแล้วได้แปเน้นๆตุงตาข่ายเป็นประตูปิดกล่องให้ไทยบุกชนะ อินโดนีเซีย 3-0ทำลายอาถรรพ์ในการเยือน สนามเกโลรา บุง การ์โน หรือ เสนายัน (เดิม) ในรอบ 11 ปี ของทีมชาติไทยชุดใหญ่ โดยหนล่าสุดที่เคยมาชนะ ต้องย้อนไปถึงศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2008 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก วันที่ 16 ธ.ค. 51 ชนะ 1-0 จากการทำประตูของ ธีรศิลป์ แดงดา
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ยูเออี พลิกกลับมาเอาชนะ มาเลเซีย 2-1 ทำให้ทั้งสองทีมมี 3 คะแนนเท่ากันแต่ยูเออีแข่ง 1นัด
โดยโปรแกรมเกมต่อไปไทยจะกลับไปเปิดสนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต พบ ยูเออี วันที่ 15 ต.ค.นี้ เวลา 19.00 น. ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 รับหน้าที่ถ่ายทอดสดเช่นเดิม
สำหรับทีมชาติไทย จะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 16.00 น. ของวันที่ 11 ก.ย.นี้ แต่ทาง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางคอนซาโดเล่ ซัปโปโร กับ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้าย โยโกฮามา เอฟ มารินอส จะแยกกลับไปที่ญี่ปุ่น เพื่อลุยซ้อมกับต้นสังกัดรอเล่น เจ ลีก 2019 สัปดาห์นี้
