ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย เล็งเห็นศักยภาพอีคอมเมิร์ซไทยโตต่อเนื่อง เดินหน้าพัฒนาโซลูชั่นโลจิสติกส์แนวใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สร้างระบบนิเวศเพื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจร ส่งเสริมการขยายธุรกิจของลูกค้า
นายเควิน เบอร์เรล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอล ซัพพลายเชน กลุ่มธุรกิจประเทศไทย (ประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา) เปิดเผยว่า ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำระดับโลก มุ่งเดินหน้าตอกย้ำสถานะผู้นำธุรกิจด้านสัญญารับเหมา (Contract logistics) ในเมืองไทย นำเสนอระบบนิเวศเพื่อธุรกิจอี-คอมเมิร์ซแบบครบวงจรเพื่อมอบมาตรฐานการดำเนินงานชั้นเลิศแก่ลูกค้า
ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบัน ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้เกิดความต้องการระบบการดำเนินงานที่ต้องการนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่ต้องการดำเนินธุรกิจอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง
ข้อมูลจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระบุว่าอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซของไทยมีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 14% ในกลุ่มประเทศอาเซียนเมื่อปี 2561 และคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดในธุรกิจอีคอมเมิร์ซของไทยจะเพิ่มขึ้นไปที่ 103,000 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำไปสู่โอกาสการเติบโตราว 20% ในปีนี้
แนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นนี้เกิดจากความเชื่อมั่นในช่องทางการชำระเงินระบบดิจิทัลและการเพิ่มขึ้นของแพลตฟอร์มธุรกิจอีคอมเมิร์ซระบบออนไลน์ โดยจะยิ่งทำให้จำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น โดยตลอดทศวรรษที่ผ่านมามีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า
การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังก่อให้เกิดความต้องการด้านการส่งมอบสินค้าและบริการโลจิสติกส์ ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในระบบซัพพลายเชนและการปฏิบัติงานด้านโลจิสติกส์ในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ งานวิจัยโดยทีมดีเอชแอลโกลบอล ยังชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นของลูกค้าผู้ประกอบการจำนวนมากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศไทย ที่คาดหวังจะได้รับโซลูชั่นชั้นเยี่ยมจากพันธมิตรธุรกิจโลจิสติกส์ภายนอก (3PL) โดยระบุปัจจัยสำคัญ 3 ประการที่ประกอบการเลือกผู้ให้บริการทางโลจิสติกส์ นั่นคือ มีการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมและการวิเคราะห์ข้อมูล ความสามารถในการให้บริการช่วงที่ธุรกิจมีความหนาแน่น และความยืดหยุ่นของเครือข่ายการกระจายสินค้า
สำหรับโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์ของดีเอชแอล ซัพพลายเชน จะเน้นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่บริการขนส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น คลังสินค้าสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (e-Fulfillment Center) ที่มีกระบวนการทำงานที่ทันสมัย สามารถปรับแต่งพื้นที่และรูปแบบบริการได้อย่างยืดหยุ่น, ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ, คลังสินค้า, โซลูชั่นการขนส่งสินค้า บริการเสริมต่างๆ และอุปกรณ์และเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับยานพาหนะขนส่ง เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้แก่คู่ค้า
ปัจจุบัน ดีเอชแอล ซัพพลายเชน (ประเทศไทย) ยังให้บริการสำหรับธุรกิจประเภทอื่น ๆ อาทิ รถยนต์ ค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภค เทคโนโลยี อุตสาหการ วิทยาศาสตร์ชีวภาพและการดูแลสุขภาพ พลังงาน และเคมีภัณฑ์ สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทย โดยมีพนักงาน 12,000 คนในสถานปฏิบัติงานกว่า 70 แห่ง โดยมีคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้ารวมพื้นที่กว่า 650,000 ตารางเมตร และรถขนส่งกว่า 4,000 คัน