ล็อกซ์เลย์เตรียมยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุดกรณีสัญญาจ้างบริการระบบเกมสลาก หลังมีคำสั่งให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จ่ายค่าชดเชยให้กับบริษัท ล็อกซ์เล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี จำกัด เป็นจำนวน 945 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% นับจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น โดยชี้ให้เห็นว่า ล็อกซ์เล่ย์มีการปฏิบัติตามสัญญาครบถ้วนทุกประการ และในการลงทุนครั้งนี้มีความเสียหายรวมกว่า 3,200 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ามูลค่าที่จะได้รับชดเชยเป็นจำนวนมาก
นายพิเศษ ดิศวัฒน์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ล็อกซ์เล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี จำกัด (LGT) กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณคณะตุลาการศาลปกครอง สำหรับการพิพากษาคดีดังกล่าว อย่างไรก็ดี ทางบริษัทมีความตั้งใจที่จะทำโครงการนี้ เพราะเห็นว่ามีประโยชน์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการลดปัญหาหวยใต้ดินของประเทศได้ ลดปัญหาการจำหน่ายล็อตเตอรี่เกินราคา รวมถึงยังเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในการซื้อสลากกินแบ่งได้ด้วย
“ด้วยเหตุนี้ แม้บริษัทจะเคารพในคำตัดสินของศาลปกครอง แต่ก็จำเป็นต้องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสุงสุด เนื่องจากมองว่าผลประโยชน์จากโครงการจะตกกับประชาชนส่วนใหญ่”
นายพิเศษชี้ด้วยว่า ทางบริษัทเริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปีที่ตัดสินใจยื่นฟ้อง พ.ศ. 2554 โดยมีการลงทุนพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบเกมสลาก และการจัดซื้ออุปกรณ์ รวมถึงติดตั้งแล้วเสร็จมากกว่า 5,500 เครื่องตามที่กองสลากกำหนด และทุกวันนี้เครื่องก็มีการตรวจสอบเป็นประจำว่ายังใช้งานได้ แต่การที่ไม่ได้เริ่มดำเนินการจัดจำหน่ายได้นำไปสู่ความเสียหาย คิดเป็นมูลค่า 3,200 ล้านบาท ซึ่งนับจนถึงตอนนี้มูลค่าความเสียหายรวมดอกเบี้ยได้พุ่งเกิน 6,000 ล้านบาทแล้ว
สำหรับประเทศเพื่อนบ้านที่มีการใช้งานสลากออนไลน์แล้วนั้น นายพิเศษกล่าวว่า มีหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ลาว เวียดนาม ไต้หวัน จีน ฯลฯ ซึ่งแต่ละประเทศต้องมีการวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียกันมาแล้วก่อนใช้งาน รวมถึงหลังจากเปิดให้บริการ ก็ต้องมีกรณีศึกษา และหนทางเยียวยาเอาไว้อย่างรอบคอบแล้วเช่นกัน และไทยสามารถนำกรณีศึกษาเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ได้หากระบบเกมสลากของเราได้นำออกมาให้บริการจริง
“สัญญาตัวนี้มีผลแล้ว สามารถทำได้ แต่เรายังไม่ได้ทำ โดยสัญญาจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่เริ่มจำหน่ายจริง และมีอายุห้าปี (ต่อได้อีกสามปี) แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มจำหน่ายเลย” นายพิเศษกล่าวปิดท้าย
