Technology

‘หัวเว่ย’ เร่งผนึกแนวร่วม พร้อมเปิดตัวฐานระบบอีโคซิสเต็ม ‘คุนเผิง’

“มีสุภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า “การทำสิ่งที่ถูกต้องมักได้รับการสนับสนุนมากมาย ส่วนการทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องมักได้รับการสนับสนุนเพียงน้อยนิด’” เราจึงยึดมั่นแนวทางนี้เพื่อสร้างแนวร่วมขึ้นมา” นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย กล่าวถึงแนวคิดของหัวเว่ย ระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อถึงการจัดงาน “Huawei Asia-Pacific Innovation Day” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 3 กันยายน ที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน

Ren Zhengfei
เหริน เจิ้งเฟย

นายเหริน กล่าวว่า เป้าหมายของหัวเว่ย คือการจัดหาบริการที่ล้ำสมัยให้แก่มวลมนุษยชาติ ดังนั้น หัวเว่ย จึงอยู่ระหว่างการเร่งสร้างแนวร่วมกับพันธมิตรและร่วมกันทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์และสังคม พร้อมทั้งทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และให้บริการอันล้ำสมัย โดยหัวเว่ยพร้อมที่จะเพิ่มการพัฒนาความร่วมมือกับบริษัทใด ๆ ก็ตามที่เต็มใจให้การสนับสนุนกับหัวเว่ยเช่นกัน

นอกจากนี้ ในงาน Huawei Asia-Pacific Innovation Day จะมีทั้งผู้เชี่ยวชาญ นักประดิษฐ์ นักวิชาการ และผู้กำหนดนโยบายจำนวนมากมาร่วมประชุมกันเพื่อแสวงหาแนวทางการใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยในเชิงสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อสังคม อาทิเช่น 5G ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) รวมไปถึงวิธีที่เทคโนโลยีจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ในทุก ๆ ด้าน

ที่สำคัญคือ จะมีการเปิดตัวฐานของระบบอีโคซิสเต็ม ภายใต้ชื่อ “คุนเผิง” รวมไปถึงการจัดแสดงนวัตกรรมใหม่ ๆ อาทิ การแพทย์ทางไกลด้วย 5G และแอปพลิเคชั่นเอไอ สำหรับเด็กที่สูญเสียการได้ยิน เป็นต้น

nz huawei 281119

ทั้งนี้ ในอีกห้าปีข้างหน้า หัวเว่ยจะทุ่มงบราว 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อปรับโฉมสถาปัตยกรรมเครือข่าย โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เครือข่ายมีความเรียบง่าย เร็วขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น และเชื่อถือได้มากขึ้น “เมื่อความเร็วในการส่งข้อมูลเพิ่มขึ้น เราจะได้เห็นเศรษฐกิจเติบโตขึ้นมากอย่างไม่น่าเชื่อ 5G จะเร็วกว่า 4G อย่างน้อย 10 เท่า และความเร็วที่มากขึ้นนี้จะขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว” นายเหริน กล่าว

ขณะเดียวกัน จากความท้าทายต่าง ๆ ที่บริษัทประสบในช่วงที่ผ่านมา  โดยเฉพาะผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอย่างมั่นใจว่า “หัวเว่ยจะไม่ล่มสลายจากการกีดกันของสหรัฐฯ ในทางกลับกัน ธุรกิจของเราดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเสียอีก”

เห็นได้จากในครึ่งแรกของปี 2019 รายได้ของบริษัทเพิ่มสูงถึง 401,300 ล้านหยวน สูงขึ้น 23.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และปีนี้บริษัทจะลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาอีก 120,000 ล้านหยวน

นับเป็นการตอกย้ำเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของหัวเว่ย ในภาวะถูกรุมเร้าจากปัญหาเทรดวอร์ และเชื่อว่า หัวเว่ยจะมีมาตรการรับมือออกมาอีกอย่างต่อเนื่องแน่นอน

Avatar photo