พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายได้บูรณาการร่วมกันค้นหา ทั้งหน่วยซีล ทหารเรือ กองทัพบก เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงเจ้าหน้าที่กรมการปกครองในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด แต่ก็ยังไม่พบ ซึ่งต้องเร่งหาจนเจอให้ได้ พร้อมมีการปรับแผนให้เหมาะสมกับสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมการทำงานและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ส่วนจะมีการเจาะถ้ำอีกหรือไม่นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังบินสำรวจอยู่
“ไม่อยากให้ทุกคนได้รับอันตราย ตนทราบว่าเด็กเหล่านี้เคยเข้าออกไปเที่ยวในถ้ำมาก่อน แต่จากนี้ก็ต้องระมัดระวังอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องนี้เป็นเหตุสุดวิสัยเพราะมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จนน้ำภายในถ้ำขึ้นสูงและมีน้ำหลาก ทำให้เด็กออกมาไม่ได้และการเข้าไปช่วยเหลือเป็นไปได้ยาก” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.ต.ต.ธนพล ศรีโสภา ผู้บังคับการตำรวจน้ำ กล่าวว่า กองบังคับการตำรวจน้ำ (สมุทรปราการ) ได้จัดส่งทีมนักปฏิบัติการใต้น้ำ (มนุษย์กบ) จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ เดินทางไปจังหวัดเชียงรายตั้งแต่วานนี้ (25 มิ.ย.) นำโดย พ.ต.อ.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจน้ำ ซึ่งเป็นชุดที่มีความชำนาญด้านการช่วยเหลือทางน้ำ พร้อมอุปกรณ์สำหรับดำน้ำที่มีประสิทธิภาพ เพื่อปฏิบัติภารกิจร่วมการค้นหาทีมฟุตบอลและโค้ชผู้ฝึกสอนรวม 13 คน หายไปในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย
โดยชุดมนุษย์กบของตำรวจน้ำจะอยู่ร่วมปฏิบัติการจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ ที่ผ่านมาชุดมนุษย์กบเคยเข้าร่วมปฏิบัติการดำน้ำช่วยเหลือผู้ประสบภัยมาแล้วจากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 และเหตุน้ำท่วมในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อปี 2560
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช. ภาค 3 และสำนักงาน กสทช. เขต 34 (เชียงราย) ผนึกกำลังช่วยเหลือทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมี่และโค้ช 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย โดยแบ่งทีมเจ้าหน้าที่ออกเป็น 2 ชุด คือ 1. ชุดทีมตรวจสอบป้องกันการรบกวนคลื่นความถี่วิทยุบริเวณปากถ้ำหลวงเพื่อให้การติดต่อสื่อสารทุกย่านความถี่มีประสิทธิภาพ โดยใช้รถตรวจสอบจากสำนักงานเขต 34 (เชียงราย) ลงพื้นที่เต็มกำลัง และ 2. ชุดทีมประสานงานด้านการสื่อสารหน่วยกู้ภัยและการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของทุกค่าย ซึ่งการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช. ครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือและประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แต่เริ่มพบอุปสรรคการใช้สัญญาณดาต้าในพื้นที่มีความหนาแน่น
