ปฏิบัติการค้นหา และช่วยเหลือ 13 ชีวิตเด็กนักฟุตบอล และโค้ช ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ส่งกำลังหน่วยซีลเข้าค้นหาสุดแนวทาง 8 นาย ไม่มีการเปลี่ยนกำลัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ส่งเจ้าหน้าที่ พร้อมหุ่นยนต์ดำน้ำ และโดรนติดกล้องตรวจจับความร้อน เข้าช่วย ขณะการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเร่งติดตั้งไฟระยะทาง 900 เมตร อำนวยความสะดวกในการค้นหา และสูบน้ำออกจากถ้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการปฏิบัติภารกิจค้นหาเด็กนักฟุตบอล และโค้ช รวม 13 คน ที่สูญหายไปในถ้ำหลวงนั้น เจ้าหน้าที่ได้มีการปรับแผนใหม่ แบ่งกำลังกันออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ หน่วยซีลแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดละ 8 นาย จากเดิมที่แบ่งกำลังออกเป็นชุดละ 4 นาย รวม 4 ชุด เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาสับเปลี่ยนกำลังกันเข้าไปภายในถ้ำ คาดว่าจะไปถึงเป้าหมายที่เรียกกันว่า จุดพัทยาบีช มีลักษณะเป็นโถงกว้าง มีเนินดินที่พักคอยได้ ซึ่งเป็นจุดที่ถือเป็นความหวังที่จะพบทั้ง 13 ชีวิต แต่ต้องผ่านน้ำลึกบริเวณ 3 กิโลเมตรแรกให้ได้เสียก่อน
ในส่วนแรกนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดที่ 1 เป็นกำลังเสริม เดินตามหลังหน่วยซีล เพื่อร่วมสำรวจเส้นทาง และสังเกตระดับน้ำ
ขณะที่อีกส่วนหนึ่ง จะเป็นชุดของทหารพรานตระเวนชายแดน ( ตชด.) และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดที่ 2 จะกระจายกำลังเดินเท้า สำรวจหาปล่องในการโรยตัวเข้าไปสมทบกับทีมด้านในถ้ำ
ในวันนี้ ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ยังได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ 13 คน พร้อมด้วยหุ่นยนต์ดำน้ำ และโดรนติดกล้องตรวจจับความร้อน เข้าช่วยปฏิบัติการค้นหาด้วย
เจ้าหน้าที่ยังขอความร่วมมือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง งดการเข้าไปในพื้น เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว
ทางด้าน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงคือฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะได้ปรับแผนสูบน้ำจากอ่างนางนอนและอ่างหนองน้ำพุ ที่อยู่ต่ำกว่าออก เพื่อจะให้น้ำในถ้ำที่อยู่สูงกว่าไหลลงมาแทนที่ และเสริมกำลังผสม ทหารพราน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ปกครองและกู้ภัยจะออกลาดตระเวนทั้งทางเฮลิคอปเตอร์และเดินเท้า ปรับการค้นหา
สัญญาณที่ดีคือพบรอยเท้าและรอยมือตามผนังถ้ำ ซึ่งการปฏิบัติภารกิจจะคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของเด็กและเจ้าหน้าที่ โดยจะดำเนินการอย่างรอบคอบระมัดระวังที่สุด และยังเชื่อมั่นการทำงานของหน่วยซีล
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากสำนักข่าวไทย
