นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว กล่าวว่า คณะกรรมการฯ อนุญาตให้คนต่างด้าว 26 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 1,522 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 320 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน
สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่ ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม 11 ราย เงินลงทุน 985 ล้านบาท จากประเทศญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และสิงคโปร์ ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า 7 ราย มีเงินลงทุน 61 ล้านบาท จากประเทศฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาภาคเอกชน 4 ราย เงินลงทุน 438 ล้านบาท จากประเทศสิงคโปร์ สาธารณรัฐเกาหลี และฮ่องกง และธุรกิจค้าปลีก/ค้าส่ง 4 ราย เงินลงทุน 38 ล้านบาท จากประเทศอินเดีย เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี
ทั้งนี้ เดือนมิถุนายน 2561 ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลงจากเดือนก่อน 4 ราย คิดเป็น 13% ขณะที่เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 892 ล้านบาท คิดเป็น 141% เนื่องจากเดือนมิถุนายน 2561 มีต่างชาติมาลงทุนในธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง เช่น บริการให้กู้ยืมเงิน บริการรับค้ำประกันหนี้ และบริการออกแบบ จัดหา ติดตั้งเครื่องมือสำหรับโรงกลั่นน้ำมัน เป็นต้น
สำหรับในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2561 คนต่างด้าวได้รับใบอนุญาต 140 ราย เงินลงทุน 7,023 ล้านบาท ในเดือนมกราคม – มิถุนายน 2560 คนต่างด้าวได้รับใบอนุญาต 136 ราย เงินลงทุน 3,743 ล้านบาท ซึ่งปี 2560 คนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในประเทศไทยจำนวนทั้งสิ้น 270 ราย และมีเงินลงทุน 7,302 ล้านบาท
ภาพจากเพจ DBD Public Relations
