General

ชงครม.ขอโยกเงิน ‘กองทุนเอสเอ็มอี’ 3,000 ล้าน ปล่อยกู้ ‘ไมโครเอสเอ็มอี’

รมว.อุตสาหกรรมเตรียมชง ครม. ขอโยกเงินกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี 2,500-3,000 ล้านบาท ปล่อยกู้เอสเอ็มอีรายเล็ก หนึ่งในนโยบายเร่งด่วนทำได้ใน 100 วัน คาดช่วยเหลือไมโครเอสเอ็มอีได้ 5,000 ราย

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 10,000 ล้านบาท สำหรับเอสเอ็มอีที่ไม่มีปัญหาสภาพคล่องจึงต้องการเพิ่มศักยภาพ เสริมเทคโนโลยี และเพิ่มผลผลิต วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 10 ล้านบาท และ 8,000 ล้านบาท มีเงินเหลือค้างรวมกับเงินที่ลูกหนี้จะชำระคืน ประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท และกองทุนสำหรับเอสเอ็มอี-คนตัวเล็ก(ไมโครเอสเอ็มอี) ที่ต้องการฟื้นฟูและเสริมศักยภาพธุรกิจ วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย เริ่มปล่อยกู้มาตั้งแต่ต้นปี 2560 ปัจจุบันปล่อยกู้วงเงินใกล้เต็มแล้ว

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

 

ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมจึงเตรียม กระทรวงจึงเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติโยกเงินที่มีอยู่ 2,500-3,000 มาใส่ในกองทุนเอสเอ็มอี-คนตัวเล็ก ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ คาดว่าจะสามารถช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้ประมาณ 5,000 ราย​ โดยถือเป็นนโยบายเร่งด่วนในการช่วยเหลือเอสเอ็มอี จึงต้องพยายามผลักดันให้เงินของกองทุนสามารถนำมาใช้ได้จริง จากที่ผ่านมาติดขัดขั้นตอนปฏิบัติต่างๆ

ทั้งนี้ ข้อมูลจากคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ(กอป.) ระบุว่า กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2560 เป็นกองทุนภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน 2558 คิดดอกเบี้ยในอัตรา 1%ต่อปี ปลอดเงินต้น 3 ปี ระยะเวลาผ่อนชำระ 7 ปี วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 10 ล้านบาท

กองทุนดังกล่าว แบ่งการช่วยเหลือเอสเอ็มอีเป็น 3 ส่วน คือ 1.กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับเอสเอ็มอีที่ไม่มีปัญหาสภาพคล่องจึงต้องการเพิ่มศักยภาพ เสริมเทคโนโลยี และเพิ่มผลผลิต วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 10 ล้านบาท ปัจจุบันอนุมัติสินเชื่อแล้ว 7,372 ล้านบาท จำนวน 1,768 ราย อยู่ระหว่างการพิจารณา 3,420 ล้านบาท จำนวน 543 ราย เบิกจ่ายแล้ว 5,981 ล้านบาท หรือคิดเป็น 81% จำนวน 1,648 ราย วงเงินคงเหลือ 1,154 ล้านบาท​

พ่อค้าแม่ค้า

2.กองทุนฟื้นฟูและเสริมศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำหรับไมโครเอสเอ็มอี วงเงิน 8,000 ล้านบาท วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท อนุมัติสินเชื่อแล้ว 7,998 ล้านบาท จำนวน 8,725 ราย อยู่ระหว่างการพิจารณา 38 ล้านบาท จำนวน 38 ราย และเบิกจ่ายแล้ว 7,930 ล้านบาท หรือคิดเป็น 99% จำนวน 8,693 ราย

3.งบประมาณเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเอสเอ็มอี วงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับดำเนินกิจกรรมเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอีผ่านโครงการต่างๆ อาทิ การพัฒนาเอสเอ็มอีสู่อี-คอมเมิร์ซ เบิกจ่ายแล้ว 272 ล้านบาท วงเงินคงเหลือ 729 ล้านบาท เป้าหมายช่วยเหลือผู้ประกอบการ 3,196 ล้านบาท ดำเนินการแล้ว 2,502 กิจการ

นอกจากนี้ยังมีการงบประมาณเพื่อบริหารกองทุน จำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารเงินกู้ยืมให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ อัตรา 0.5-1% ของวงเงินกู้ยืม และใช้สำหรับจ้างบุคลากร ประชาสัมพันธ์ ตลอดจนการบริหารงานของสำนักงานกองทุน คาดว่ามีการใช้จ่ายไปไม่เกิน 500 ล้านบาท​

ปัจจุบันพบว่า กองทุนฯวงเงิน 10,000 ล้านบาท ที่มีการเบิกจ่ายเพียง 81% หากผู้ยื่นกู้ไม่มีการเบิกวงเงินภายในเวลาที่กำหนด ควรระงับการปล่อยกู้และนำเงินที่้เหลือมาปล่อยกู้ให้กับไมโครเอสเอ็มอีแทน เพราะจะเข้าถึงรากหญ้ามากกว่าเอสเอ็มอีรายใหญ่ เพราะจากสถิติก็เห็นชัดเจนว่าไมโครเอสเอ็มอีมีการเบิกเงินกู้รวดเร็วจนเต็มวงเงิน 8,000 ล้านบาท

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight