ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-20 เปิดฉากได้แบบเร้าใจโดยเฉพาะ”เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าสองสมัยติดที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงตั้งแต่นัดแรก ซึ่งเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมามีเตะทั้งหมด 6 คู่ แต่ละสนามมีเกร็ดและสถิติที่น่าสนใจเกิดขึ้นหลายอย่าง
เวสต์แฮม แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-5
– ชัยชนะ 5-0 เหนือ เวสต์แฮม ถือเป็นชัยชนะที่ขาดลอยสุดของ แมนฯ ซิตี้ ในการลงเตะเกมเปิดซีซั่นลีกสูงสุดเมืองผู้ดี
– แมนฯ ซิตี้ กวาดชัยรวดใน 15 เกมหลังสุดในศึก พรีเมียร์ลีก
– เวสต์แฮม ปราชัยในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดซีซั่นมาตลอด 4 ฤดูกาลหลังสุด โดยเฉพาะ 3 ฤดูกาลหลังสุด เสียไปถึง 13 ประตู และยิงไม่ได้เลย
– ราฮีม สเตอร์ลิง ปีก “เรือใบสีฟ้า” กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 8 ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่สามารถทำแฮตทริกได้ในเกมเปิดซีซั่น และถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา เมื่อฤดูกาล 2010/11
– เซร์คิโอ อเกวโร่ หัวหอก แมนฯ ซิตี้ ทำประตูในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดซีซั่นไปแล้ว 7 ครั้ง ซึ่งมีแค่ เวย์น รูนี่ย์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด และ อลัน เชียเรอร์ เท่านั้นที่ทำได้มากกว่า (ทั้งสามคนทำได้ 8 ครั้ง)
– เวสต์แฮม เสียประตูที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม รวมทุกรายการไปแล้ว 99 ลูก จาก 68 เกม โดยที่ 22 ประตูในนั้น มาจาก 5 เกมที่เจอกับ แมนฯ ซิตี้
บอร์นมัธ เสมอ เชฟฯ ยูไนเต็ด 1-1
– บิลลี่ ชาร์ป หัวหอกจอมเก๋า เชฟฯ ยูไนเต็ด ลงสำรองมาทำประตูตีเสมอให้ทีม พร้อมสร้างสถิติทำประตูในลีกอังกฤษครบทั้ง 4 ระดับ : ลีก ทู, ลีก วัน, แชมเปี้ยนชิพ และ พรีเมียร์ลีก
– ชาร์ป ทำประตูในเวที พรีเมียร์ลีก ได้ จากโอกาสยิงครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 2 นัด สมัยอยู่กับ เซาธ์แฮมป์ตัน แต่ไม่มีโอกาสยิงเลย
– บอร์นมัธ แพ้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น จาก 12 เกม พรีเมียร์ลีก ยามเปิดบ้านเจอกับทีมน้องใหม่
เบิร์นลี่ย์ ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-0
– เบิร์นลี่ย์ คว้าชัยเกมเปิดซีซั่น ด้วยการเอาชนะคู่แข่ง 3 ประตู เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1966 ซึ่งตอนนั้น (ดิวิชั่น 1) พวกเขาเอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 4-0
– “นักบุญ” คว้าชัยเกมเปิดซีซั่นไม่ได้มาตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 ที่พวกเขาบุกเชือด เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-0 ซึ่งหลังจากนั้น เซาธ์ฯ แพ้ 2 เสมอ 4 ในเกมเปิดหัวฤดูกาล
– 4 จาก 9 แอสซิสต์ของ เอริค ปีเตอร์ส ฟูลแบ็ก เบิร์นลี่ย์ ในเกม พรีเมียร์ลีก มาจากเกมเจอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1
– จอห์น แม็คกินน์ มิดฟิลด์ วิลล่า กลายเป็นนักเตะชาวสกอตติชคนแรก ที่สามารถทำประตูได้ทันทีตั้งแต่การลงเล่นครั้งแรกในศึก พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ แม็ตต์ ฟิลลิปส์ ของ แบล็คพูล (เจอ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส) เมื่อเดือนกันยายน ปี 2010
– แจ็ค กรีลิช มิดฟิลด์ “สิงห์ผงาด” พบกับความปราชัยในเกม พรีเมียร์ลีก มา 19 นัดติด ถือเป็นสถิติยาวนานสุดในประวัติศาสตร์
– แฮร์รี่ เคน กองหน้า สเปอร์ส ทำ 4 ประตู จาก 3 เกมหลังสุดที่เจอกับ วิลล่า
– สเปอร์ส ถือเป็นราชาแห่งครึ่งหลังอย่างแท้จริง หลังพลิกกลับมาเป็นฝ่ายคว้าชัยในเกม พรีเมียร์ลีก หลังจากมีสกอร์ตามคู่แข่งหลังจบครั้งแรกได้ถึง 37 ครั้ง ซึ่งถือว่ามากกว่าทุกทีมในลีก
– “สิงห์ผงาด” เอาชนะใครไม่ได้เลยกับ 19 เกมเยือนหลังสุดในศึก พรีเมียร์ลีก (เสมอ 3 แพ้ 16) โดยเฉพาะ 8 เกมหลังสุดนั้น พวกเขาแพ้รวด
คริสตัล พาเลซ เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0
– เอฟเวอร์ตัน เสมอในเกมเปิดซีซั่น 6 จาก 7 ครั้งหลังสุด อย่างไรก็ตาม นี่คือครั้งแรกของพวกเขาที่ไม่เสียประตูในเกมเปิดหัวฤดูกาลนับตั้งแต่ซีซั่น 1998/99
– นับตั้งแต่เปิดฉากฤดูกาลที่แล้ว พาเลซ เป็นทีมที่ทำประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ที่บ้านตัวเองไม่ได้มากที่สุด (9 เกม)
– การยิงตรงกรอบครั้งสุดท้ายของเกมนี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 62 โดยเป็นการยิงของ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน จอมทัพ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน”
– มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน กลายเป็นนักเตะรายที่สามของ เอฟเวอร์ตัน ที่ถูกไล่ออกตั้งแต่เกมเปิดฤดูกาล ต่อจาก หลี่ เถีย (ซีซั่น 2003/04) และ ฟิล จากีลก้า (ซีซั่น 2018/19)
วัตฟอร์ด แพ้ ไบรท์ตัน 0-3
– ไบรท์ตัน หยุดสถิติเก็บชัยชนะในเกม พรีเมียร์ลีก ไม่ได้ไว้ที่ 9 นัด (เสมอ 3 แพ้ 6) โดยนี่คือชัยชนะครั้งแรกของพวกเขานับตั้งแต่เกมที่บุกไปเชือด คริสตัล พาเลซ 2-1 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม
– ฟลอริน อันโดเน่ หัวหอก ไบรท์ตัน ทำประตูได้จากสัมผัสแรก หลังจากลงสนามในฐานะตัวสำรองแค่ 62 วินาที
– นีล โมเปย์ กองหน้า ไบรท์ตัน กลายเป็นนักเตะฝรั่งเศสรายที่ 13 ที่สามารถทำประตูในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาลได้ โดยมีแค่นักเตะอังกฤษ (96 คน) เท่านั้น ที่สามารถทำประตูในเกมเปิดซีซั่นได้มากกว่า
