Technology

‘หัวเว่ย’ ฝ่าพิษสงครามการค้า ครึ่งปียังโตทั้งรายได้ – กำไร ชู ‘Ocean Connect’ ดันใช้ ‘ไอโอที’

ผลพวงจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ที่กระทบเป็นลูกโซ่ถึงภาพรวมเศรษฐกิจโลก ไปจนถึงบริษัทในจีนอย่างหัวเว่ย แต่ผลประกอบการในครึ่งปีแรกของหัวเว่ยทั่วโลก ยังสามารถเติบโตได้ 23% หรือมีรายได้รวมกว่า 4 แสนล้านหยวน และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 8.7% อย่างไรก็ตาม หากยังไม่สามารถจบข้อพิพาทครั้งนี้และปล่อยให้ยืดเยื้อออกไป แน่นอนว่าต้องเห็นผลกระทบที่ชัดเจนขึ้นทั้งในแง่การดำเนินงาน รายได้และผลกำไร

เห็นได้จากการที่ นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวเว่ย ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า การเติบโตของหัวเว่ยจะช้าลง แต่จะไม่มากเท่าที่ทุกคนคิด โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ รายได้หัวเว่ยยังคงเพิ่มขึ้น 39% สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่อัตรานี้จะลดลง 25% ในเดือนเมษายน และอาจจะยังลดลงไปเรื่อยๆ จนสิ้นปี อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยเชื่อมั่นว่า การแบนของสหรัฐฯ จะไม่ทำให้การเติบโตต้องติดลบ หรือทำให้การพัฒนาอุตสาหกรรมของหัวเว่ยแย่ลงแน่นอน

46520
เอเบล เติ้ง

สอดคล้องกับนายเอเบล เติ้ง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) ที่กล่าวว่า ในปีนี้หัวเว่ยเผชิญปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบพอสมควร ซึ่งยอมรับว่าในประเทศไทยเอง มีผลกระทบต่อยอดขายโทรศัพท์มือถือหัวเว่ย เพราะเติบโตเพิ่มขึ้น แต่เป็นการเติบโตในอัตราที่น้อยกว่าเป้าหมาย แต่เชื่อว่าความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์หัวเว่ย และการสนับสนุนจากพันธมิตร จะทำให้ผ่านพ้นไปได้

นอกจากนี้ หัวเว่ยยังถือเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยี 5G รายใหญ่ ซึ่งประเทศไทยกำลังทรานส์ฟอร์มไปสู่ 5G โดยมีเทคโนโลยีไอโอทีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ซึ่งหัวเว่ยพร้อมที่จะนำ “Ocean Connect” แพลตฟอร์มไอโอทีและระบบคลาวด์ของหัวเว่ย มาใช้เพื่อรองรับการพัฒนารูปแบบการใช้งานไอโอทีที่มีในประเทศไทย

ทั้งนี้ ในงาน Thailand IoT Industry Summit ที่จัดขึ้นภายใต้ธีม “IoT ขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 ดันไทยก้าวไกลสู่เศรษฐกิจดิจิทัล” โดยมีหน่วยงานภาครัฐ องค์กรระหว่างประเทศ ผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำ ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมและพันธมิตรจากภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วมงานกว่า 300 คน เพื่อแบ่งปันข้อมูลองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมไอโอที ตลอดจนขยายขอบเขตความร่วมมือเพื่อช่วยกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 และเศรษฐกิจดิจิทัลให้รุดหน้า หัวเว่ยยังเป็นภาคเอกชนโทรคมนาคมที่เข้ามาร่วมสนับสนุน

46521
อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย

นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ไอโอที เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่จะมาช่วยสนับสนุนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 อีกทั้งยังช่วยเร่งให้การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของประเทศไทยเกิดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งด้านสมาร์ทซิตี้ สมาร์ทอินดัสทรี่ และสมาร์ทไลฟ์ ดังนั้น ไอโอที จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของเรา ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต

ในประเทศไทย เทคโนโลยี ไอโอที ได้กลายเป็นกลไกสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ยุคดิจิทัล สร้างมูลค่าทางสังคมและเศรษฐกิจในระดับสูง ซึ่งผู้ให้บริการ อาทิเช่น เอไอเอสและทรู คอร์ปอเรชั่น ก็ได้วางโครงข่าย NB-IoT ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยมีตัวอย่างการใช้งาน อาทิ อุปกรณ์ติดตามรถ อุปกรณ์ดูแลเด็ก และการจอดรถอัจฉริยะซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้มีการใช้งานในเชิงพาณิชย์แล้ว นวัตกรรมต่างๆ อาทิ สมาร์ทมิเตอร์และอุปกรณ์ติดตามวัว (Connected Cow) ก็ได้เข้ามาทดลองใช้งานในประเทศไทยแล้วเช่นกัน

ในงานดังกล่าว หัวเว่ย ประเทศไทย ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มไอโอที “OceanConnect” อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นโอเพ่นอีโคซิสเต็มที่พัฒนาขึ้นบนไอโอทีและคลาวด์สาธารณะ ที่จะช่วยให้บริษัทพันธมิตรผู้พัฒนาระบบ หรือ System Integrator (SI) ในประเทศสามารถพัฒนาไอโอทีและนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว

08

“ปัจจุบัน นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านดิจิทัลทำให้โลกและชีวิตคนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน หัวเว่ยก็มีส่วนช่วยผลักดันอีโคซิสเต็มและการพัฒนา ไอโอที ในประเทศไทยผ่านการสนับสนุนพันธมิตร SI ในประเทศ ผสานความร่วมมือกับพันธมิตรด้านไอโอที ทั้งในและต่างประเทศ และนำกรณีการใช้งานจากต่างประเทศมาใช้ในประเทศไทยให้มากขึ้น” นายเติ้ง กล่าวเสริม

Avatar photo