โหดจัดรัสเซีย! “เจ้าภาพ” กด 2 นัด 8 ประตู โชว์ฟอร์มฮ็อตเอาชนะอียิปต์ของ โม ซาลาห์ พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ทะลุผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก นับแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย ส่วนทัพมัมมี่แนวโน้มต้องเก็บของกลับบ้านสูงเหลือเกิน
เกมนี้ทัพหมีขาวได้ประตูขึ้นนำจากการสกัดเข้าประตูตัวเองของอาห์เหม็ด ฟาธี ในต้นครึ่งหลัง จากนั้นเดนิส เชรีเชฟ มาซัดประตูที่สามของเขาในทัวร์นาเมนต์นี้ให้เจ้าภาพหนีไปเป็น 2-0 ในนาที 59
สามนาทีต่อมา อาร์เต็ม ซิวบา ก็ซัดลูกสามให้รัสเซียนำห่าง ก่อนที่อียิปต์จะมาได้จุดโทษจาก VAR และเป็นโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงตีไข่แตก แต่ได้เท่านั้นจบเกมรัสเซียชนะ 3-1 เก็บชัยสองนัดติดผ่านเข้ารอบ 16 ทีมแล้ว หากอุรุกวัยชนะซาอุดีอาระเบียในวันพรุ่งนี้จะทำให้อียิปต์ตกรอบแรกทันที
ขณะที่นัดแรก กลุ่มเอช “ซามูไร บลู” ญี่ปุ่น กลายเป็นทีมแรกจากเอเชียที่ดับทีมจากอเมริกาใต้ได้สำเร็จในเวิลด์ คัพ หลังเชือด โคลอมเบีย ที่เหลือ 10 ตัวจากการที่ การ์ลอส ซานเชซ โดนใบแดงเร็วสุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย (2 นาที 56 วินาที) เป็นรอง โฮเซ่ อัลแบร์โต้ บาติสต้า ของ อุรุกวัย เมื่อปี 1986 (54 วินาที)
เกมนี้ญี่ปุ่นได้ประตูนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 4 เมื่อการ์ลอส ซานเชซ กองหลังโคลอมเบียเจตนาใช้มือปัดบอลในกรอบโทษ กรรมการเป่าเป็นจุดโทษทันทีพร้อมชักใบแดงไล่ซานเชซออกจากสนามไป ทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกที่ได้ใบแดงในฟุตบอลโลกครั้งนี้ และเป็นชินจิ คางาวะ ยิงไม่พลาด
โคลอมเบีย ที่แม้จะมีตัวน้อยกว่า แต่สามารถครองเกมบุกได้ต่อเนื่องจนมาตีเสมอได้ในนาที 39 จากฟรีคิกของ ฮวน กินเตโร่ แต่สุดท้ายมาโดนยูยะ โอซาโกะ โหม่งประตูชัยในนาที 70 พาญี่ปุ่นเก็บชัยชนะได้สำเร็จ 2-1 พร้อมกับสร้างผลงานเป็นชาติจากเอเชียทีมแรก ที่เอาชนะทีมจากอเมริกาใต้ในฟุตบอลโลก (แข่ง 18 ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 14)
ส่วนเซเนกัล สร้างผลงานเป็นชาติจากแอฟริกาทีมแรกที่เก็บชัยชนะในฟุตบอลโลกหนนี้ หลังโค่นโปแลนด์ 2-1 กับลูกสุดกังขา จังหวะที่เอ็มบาย เนียง ที่ยืนอยู่ข้างสนามแล้วไลน์แมนให้ลงมาได้ก่อน จึงวิ่งกลับมาเล่นเฉย แล้วฉกบอลจากเกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค ที่ส่งคืนหลังไปยิงหน้าประตูโล่งๆ ท่ามกลางการประท้วงของโปแลนด์แต่ไม่เป็นผล ทำให้เซเนกัล คว้าชัยชนะในบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2002 พร้อมนำเป็นจ่าฝูงร่วมกลุ่มเอช
