นายเจนต์ชัย ลิ้มวัฒนะกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท นารายณ์ พร็อพเพอตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯในปีนี้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว พบว่าโครงการแนวราบมีสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียมในปีนี้ ราคาคอนโดในกลุ่มไฮเอนด์และลักซ์ชัวรี่ ปรับตัวสูงขึ้นมาก เนื่องจากราคาที่ดินที่สูงขึ้น และมีกำลังซื้อใหม่จากกลุ่มนักลงทุนจากต่างประเทศ เนื่องจากอสังหาฯในไทยราคาไม่แพง การซื้อ-ขายไม่ยุ่งยาก จึงเป็นที่สนใจของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ
ที่ผ่านมาลูกค้ากลุ่มที่เป็นความต้องการจริง จะใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อช้ากว่ากลุ่มนักเก็งกำไรหรือนักลงทุน ส่งผลให้การขายโครงการโดยทั่วไปชะลอตัวลง แต่ภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศยังดีอยู่ กลุ่มคนชั้นกลางของประเทศ ซึ่งเป็นฐานของความต้องการภายในยังมีอย่างต่อเนื่อง แต่จะไม่เข้ามาเร็วเหมือนกลุ่มนักลงทุน
ดังนั้นโครงการที่จะเปิดตัว ในสถานการณ์แบบนี้ ควรเป็นโครงการที่มีพื้นฐานการอยู่อาศัยที่ดีจริง ทำเลใกล้รถไฟฟ้าเดินทางสะดวก ใกล้แหล่งจับจ่ายใช้สอย มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่โดดเด่น ในราคาที่ย่อมเยาว์ จะมีโอกาสการขายที่สูงกว่า ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดในการพัฒนาโครงการของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับพื้นฐานการอยู่อาศัยของลูกค้ามาเป็นอันดับแรก
สำหรับปีนี้มีแผนเปิดขายโครงการใหม่และเฟสต่อเนื่อง จำนวน 3 โครงการ แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว Luxury 1 โครงการ ,ทาวน์โฮม 1 โครงการ และ คอนโดมิเนียม 1 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีนโยบายการลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ตั้งงบซื้อที่ดินเพิ่มเติมกว่า 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ได้ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 3,000 ล้านบาท และมี backlog ที่จะทยอยรับรู้รายได้ รวมกว่า 5,500 ล้านบาท
สำหรับโครงการ “เดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56” เป็นการเปิดขายเฟสต่อเนื่อง หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการขายอาคาร C โดยมียอดขายแล้ว 90% ซึ่งในส่วนที่จะเปิดพรีเซลส์ คือ ทาวเวอร์ B เป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 31 ชั้น ราคาเริ่มต้นที่ 1.84 ล้านบาท ภายใต้คอนเซปต์ “It’s My World” ชีวิตที่ใช่ในโลกแบบของเรา โดยมีกำหนดเปิดขายในส่วนของอาคาร B อย่างเป็นทางการในงาน “Pre-sales” วันที่ 30 มิถุนายนนี้ที่สำนักงานขาย โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียนใน Website : naraiproperty.com เพื่อมีสิทธิรับบัตรกำนัลเซ็นทรัลมูลค่า 1 หมื่นบาท
โครงการเดอะพาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56 เป็นโครงการที่ถูกพัฒนาขึ้นบนเนื้อที่ 13 ไร่เศษ จำนวนยูนิต 2,047 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท พัฒนาโดยเน้นจุดเด่นด้วยสวนขนาดใหญ่ Mega Park ไม่ต่ำกว่า 3 ไร่ และสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการกว่า 30 รายการ โครงการตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-บางแค ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2562
ส่วนด้านการพัฒนา ปัจจุบันโครงการผ่าน EIA และได้รับใบอนุญาตก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2563
