สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) ฉลองครบรอบ 20 ปีแห่งการมอบประสบการณ์ Starbucks Experience ให้กับลูกค้าในประเทศไทยด้วยการเปิดตัวสาขาใหม่ล่าสุดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่เซ็นทรัลเวิลด์
ภายในร้านจะมีทั้งสตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ บาร์ (Starbucks Reserve™Bar) และเคาน์เตอร์ สตาร์บัคส์ ดราฟท์ (Starbucks® DRAFT) นวัตกรรมเครื่องดื่มเย็นผสานไนโตรเจนเป็นครั้งแรกในเอเชีย
ความพิเศษของสตาร์บัคส์ ดราฟท์ คือ การผสานเครื่องดื่มด้วยไนโตรเจน เสิร์ฟตรงจากแท็ปซึ่งมีให้เลือก 4 แบบ คือ แท็ปโคลด์ บรูว์ แท็ปไนโตร โคลด์ บรูว์ แท็ปชา และแท็ปนม ให้ลูกค้าได้เลือกสรรตามต้องการ
ทุกเครื่องดื่มที่เสิร์ฟตรงจากแท็ปจะให้เครื่องดื่มเย็น ที่มีฟองครีมเนียนละเอียดนุ่มนวล มอบความนุ่มละมุนลิ้น ทำให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงรสชาติของเครื่องดื่มนั้นๆ อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องใส่น้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นกาแฟดำ ชา หรือเครื่องดื่มผสมนม อาทิ ไนโตร แฟลท ไวท์, ไนโตร คาราเมล มัคคิอาโต, ไนโตร พีช ที, ไนโตร กรีนที ลาเต้ ยอดนิยมของลูกค้าชาวไทย และ ดาร์ค คาราเมล โคลด์ โฟม ไนโตร
ร้านสตาร์บัคส์แห่งใหม่ที่สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์แห่งนี้ นับเป็นร้าน สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ บาร์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมให้บริการทั้งกาแฟคุณภาพเยี่ยมแบบดั้งเดิม และกาแฟหายากจากทั่วทุกมุมโลก กับสุดยอดเครื่องชงกาแฟ Black Eagle เพื่อส่งมอบกาแฟที่มีคุณภาพ และรสชาติดีที่สุด และสม่ำเสมอในทุกๆ แก้ว รวมทั้งเครื่องชงแบบต่างๆ เช่น Siphon, Chemex และ Pour-Over
“จากความสำเร็จของ สตาร์บัคส์ ไนโตร โคลด์ บรูว์ กาแฟสกัดเย็นผสานไนโตรเจน สตาร์บัคส์ไม่หยุดนิ่งที่จะสรรหานวัตกรรมของการชงกาแฟ และเครื่องดื่มต่างๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์และสุนทรียภาพในการดื่มกาแฟให้กับลูกค้า และวันนี้เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัว สตาร์บัคส์ ดราฟท์ นวัตกรรมเครื่องดื่มเย็นใหม่เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าคนไทยผู้ชื่นชอบดื่มกาแฟดำ กาแฟผสมนม และชา ได้สัมผัสกับรสชาติเครื่องดื่มแก้วโปรดที่มาพร้อมฟองครีมละเอียด มอบความนุ่มละมุนลิ้น นับเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ทุกคนไม่ควรพลาด” เนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) กล่าว
สาขาใหม่แห่งนี้ โดดเด่นด้วยเพดานสูงสีทอง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์ธรรมชาติ รังสรรค์ออกมาเป็นแนวริ้วทองที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแนวขั้นบันไดภูมิทัศน์ทิวเขาไร่กาแฟ และยังแสดงถึงความเคารพต่อภูมิประเทศที่ใช้ปลูกกาแฟ
แนวริ้วทองบนเพดานจะเชื้อเชิญทุกสายตาไปยังบริเวณกลางร้านซึ่งเป็นที่ตั้งของ สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ บาร์ ที่มีกรุ่นกลิ่นหอมๆ ของกาแฟอยู่ทั่วร้าน โดยใช้งานศิลปะหลากหลายชิ้นมาประดับตกแต่งทั่วทั้งร้าน ด้วยผลงานความภูมิใจของศิลปินชาวไทย
ศิลปินสตรีทอาร์ตอย่าง “รักกิจ ควรหาเวช” ก็ได้ร่วมแสดงผลงานชิ้นที่โดดเด่น สื่อให้เห็นถึงภูมิภาคต่างๆ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการปลูกกาแฟ ผ่านภาพวาดสัตว์ป่าประจำชาติ ได้แก่เสือโคร่งสุมาตรา ช้างเคนยา และนกควซซอล แห่งกัวเตมาลา
นอกจากนี้ ยังมี “ไอริณ (แอน) อาริยะธนาพร” และทีมงานได้ร่วมสร้างสรรค์จิตรกรรมบนกำแพงของร้าน ด้วยพื้นที่ขนาด 760 ตารางเมตร ร้านจึงกว้างขวาง มีที่นั่งรองรับลูกค้าได้ถึง 230 ที่นั่งและห้องเอนกประสงค์ขนาดใหญ่อีก 2 ห้อง เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมต่างๆ
สตาร์บัคส์ ยังเชิญ “Olive Creative Laboratory” มาจัดห้องทดลองเวิร์คช็อปแห่งใหม่สุดฮิป ซึ่งเป็นห้องทดลองทางไอเดียขนาดเล็กกระทัดรัด ที่ตั้งขึ้นเพื่อทำการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ และลองผิดลองถูกทางศิลปะโดยเน้นความสนุก ด้วยความเชื่อที่ว่า ยิ่งทดลองมากเท่าไรก็ยิ่งดี และสนุกเท่านั้น โดยจัดเวิร์คช็อปวาดภาพด้วยสีไม้ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสตาร์บัคส์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี
ผู้ร่วมงานได้ร่วมวาดภาพจากจินตนาการของตนเองที่รู้สึกเกี่ยวกับสตาร์บัคส์ โดยมีคุณครูช่วยสอนการวาดออกแบบสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสตาร์บัคส์ เช่น ต้นกาแฟ เมล็ดกาแฟ และแน่นอน นางเงือกไซเรน โดยผู้ร่วมงานทุกท่านจะได้ ทัมเบลอร์ที่ออกแบบด้วยตัวเอง มีเพียงใบเดียวในโลกติดมือกลับบ้านไปด้วย
ทั้งนี้ สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) เปิดดำเนินการสาขาแรกในไทย เมื่อเดือนกรกฎาคม 2541 ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 335 สาขาทั่วประเทศ