นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายปี 2561 มีรายได้เพิ่มขึ้น 2,800 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาขาดทุนสุทธิ 1,800 ล้านบาท หรือ มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 16,800 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 14,000 ล้านบาท หลังประเมินจำนวนผู้โดยสารเป็น 9 ล้านคน จากเดิม 8 ล้านคน
“แม้ว่าการดำเนินงานในปัจจุบัน จะเผชิญกับสภาวะการแข่งขันกันในตลาดที่รุนแรง และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็เชื่อมั่นว่าในปี 2561 นกแอร์จะสามารถดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้อย่างแน่นอน เป็นผลจากการบริหารจัดการที่ดีขึ้น โดยให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของเครื่องบิน ซึ่งความปลอดภัยของลูกค้าถือเป็นเรื่องสำคัญ” นายปิยะ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในเดือนธันวาคม 2560-กุมภาพันธ์ 2561 มีกำไรสุทธิ 104.71 ลบ. จากขาดทุน 317.60 ลบ. สะท้อนว่าแผนฟื้นฟูกิจการมีผลชัดเจน ส่วนรายได้อยู่ 4.37 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 2.54 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 4.1% และมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร หรือ Cabin Factor เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 93% จาก 86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องบินลดลง 31.6% ดังนั้นค่าซ่อมบำรุงรักษาเครื่องบินจะเทียบเท่าเป็น 16% ของต้นทุนรวมของสายการบิน ลดลงจากเดิมที่อยู่ที่ 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนอัตราการีใช้เครื่องบินต่อลำเพิ่มขึ้น 23.1% หรือคิดเป็น 9.96 ชั่วโมงปฏิบัติการการบินต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอัตราการใช้เครื่องบินต่อลำอยู่ที่ 8.09 ชั่วโมงปฏิบัติการการบินต่อวัน