วันนี้ (7 ก.ค.) เริ่มปิดซ่อมแหล่งก๊าซ “เจดีเอ” รณรงค์ “ชาวใต้” ช่วยประหยัดไฟช่วงพีคตั้งแต่ 18.00-21.30 น. สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลิตไฟฟ้าและเอ็นจีวีให้เพียงพอ
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้ (7 ก.ค.) ไปจนถึงวันที่ 21 กรกฎาคม 2562 รวม 14 วัน จะมีการปิดซ่อมบำรุงประจำปีแหล่งก๊าซธรรมชาติพื้นที่พัฒนาร่วมไทย–มาเลเซีย (JDA A-18) เพื่อปรับปรุงและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ผลิตและส่งก๊าซธรรมชาติ
โดยกระทรวงพลังงานได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางมาตรการดูแลเรียบร้อยแล้ว แต่เพื่อให้การใช้ไฟฟ้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทางกระทรวงพลังงานจึงขอความร่วมมือจากภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ร่วมประหยัดพลังงานในช่วงเวลา 18.00-21.30 น. ในระหว่างที่มีการหยุดจ่ายก๊าซฯ จากแหล่ง JDA-A18 ด้วย
สำหรับในช่วงที่แหล่งก๊าซ JDA หยุดซ่อมบำรุงรวม 14 วัน จะส่งผลให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติหายไปจากระบบประมาณ 440 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ก๊าซธรรมชาติทั้งในด้านเชื้อเพลิงเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าและการผลิตก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV)
กระทรวงพลังงานจึงได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการวางมาตรการรับมือทั้งด้านการผลิตไฟฟ้า และบริหารจัดการก๊าซ NGV เพื่อไม่ให้กระทบต่อการใช้ไฟฟ้าและการใช้ก๊าซ NGV ในพื้นที่ภาคใต้
มาตรการรองรับด้านการผลิตไฟฟ้าของทาง กฟผ. เช่น ปรับระบบการใช้เชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 1 และ 2 ให้มีความพร้อมเดินเครื่องด้วยเชื้อเพลิงสำรอง ได้แก่ น้ำมันดีเซล, โรงไฟฟ้าภาคใต้ทุกโรงและโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก (SPP) ต้องพร้อมเดินเครื่อง และงดการหยุดซ่อมบำรุงทุกกรณีในช่วงนี้ พร้อมประสานการไฟฟ้ามาเลเซียเพื่อซื้อไฟฟ้าผ่านระบบ HVDC ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
สำหรับมาตรการรองรับด้านก๊าซ NGV นั้น ปตท. จะมีการบรรจุก๊าซ NGV จัดเก็บใส่รถขนส่งก๊าซฯ เพื่อสำรองไว้ก่อนการหยุดผลิต รวมถึงมีการวางแผนจัดสรรก๊าซฯ จากพื้นที่ส่วนกลางขนส่งลงมายังพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง เพื่อให้เพียงพอต่อการให้บริการประชาชนในพื้นที่ครอบคลุมสถานีบริการก๊าซ NGV ใน 4 จังหวัด จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 4 แห่ง จังหวัดนครศรีธรรมราช 3 แห่ง จังหวัดสงขลา 4 แห่ง และจังหวัดปัตตานี 1 แห่ง ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการใช้อยู่ที่ 90 ตันต่อวัน
