เข้าสู่ปีที่ 10 สำหรับบริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ซึ่งปีนี้ถือเป็นก้าวของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และครั้งสำคัญของเซ้นส์ฯ ด้วยการรุกขยายธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงต่อยอดธุรกิจเดิม และพัฒนาฟอร์แมทคอนเทนต์เองเพื่อขายไปทั่วโลก
นายวราวุธ เจนธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด แผนการใหญ่ครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสร้างอีโคซิสเต็มของธุรกิจให้เป็นโมเดลที่ครบวงจร เพื่อใช้ประโยชน์จากสื่อที่มีอยู่ให้มากที่สุด โดยจากจุดเริ่มของการเป็นคอนเทนต์ โพรไวเดอร์ ทั้งการผลิตเองและซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ จนปัจจุบัน เซ้นส์ฯ มีรายการทีวีและรายการออนไลน์ในมือถึง 12 รายการ และวางเป้าหมายจะพัฒนารายการใหม่ปีละไม่ต่ำกว่า 2 รายการ
ที่สำคัญคือ แต่ละรายการของเซ้นส์ฯ ได้รับการเผยแพร่ในช่องหลักและเวลาช่วงไพร์มไทม์ ทำให้เรตติ้งอยู่ในระดับสูง จึงมีแนวคิดที่จะต่อยอดสื่อและรายการที่มีอยู่ในมือเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น
“ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันรายได้จากโฆษณาในรายการทีวีอยู่ในภาวะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย แต่คอนเทนต์ที่มีสามารถนำมาพัฒนาเพื่อสร้างรายได้เพิ่มได้ เช่นการขยายไปช่องทางออนไลน์ รวมถึงการขยายธุรกิจใหม่ที่สามารถใช้สื่อที่มีอยู่สนับสนุนให้เกิดได้เร็วขึ้น”นายวราวุธกล่าว
ตัวอย่างที่เห็นชัดของโมเดลธุรกิจนี้คือ การจับมือกับบริษัท มาลาคี จำกัด ผู้ทำธุรกิจค้าปลีกเครื่องสำอางรายใหญ่ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ บริษัท เวลโค จำกัด เพื่อรุกตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทย โดยเฉพาะการขายตลาดแมส ซึ่งหนึ่งในเครื่องสำอางที่มาลาคีได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่ายคือ มูนช็อต แบรนด์บิวตี้จากประเทศเกาหลี ของ วายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลี โดยเวลโคจะเริ่มจากการจับมือ ลิซ่า แบล็คพิ้งค์ หรือ ลลิษา มโนบาล เป็นพรีเซ็นเตอร์
ความพิเศษของคอลเลคชั่นนี้คือ ลิซ่า จะเป็นคนเลือกสินค้าในคอลเล็คชั่นใหม่นี้เอง เริ่มจากผลิตภัณฑ์ 3 ชนิดคือ ลิป แอนด์ ชีค ลิปสติกที่มีให้เลือก 3 สี, ผลิตภัณฑ์บำรุงและปกปิดผิวเรียบเนียน และ แป้งเนื้อแมท โดยจะนำเข้าจากเกาหลีทั้งหมด และวางจำหน่ายเฉพาะในเซเว่นอีเลฟเว่นกว่า 7,000 สาขา ระดับราคา 139-189 บาท
การรุกตลาดเครื่องสำอางครั้งนี้ ถือเป็นการขยายธุรกิจใหม่สู่ตลาดรีเทลครั้งแรกของกลุ่มเซ้นส์ ตามโมเดลธุรกิจที่วางไว้ ด้วยการขยายธุรกิจที่สอดคล้องและสนับสนุนกันกับความแข็งแกร่งเดิมนั่นคือ สื่อที่มีอยู่ อีกทั้งยังมองว่า ตลาดรีเทลเครื่องสำอางเป็นตลาดใหญ่ หากประสบความสำเร็จ แน่นอนว่า จะต้องมีการขยายไลน์สินค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และเชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้หลักให้กับกลุ่มเซ้นส์ได้ในอนาคต
อีกธุรกิจที่จะเข้ามาเติมเต็มอีโคซิสเต็มที่วางไว้คือ การเป็นผู้ผลิตฟอร์แมท หรือรูปแบบรายการ เพื่อขายลิขสิทธิ์ไปยังประเทศต่างๆ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปีนี้เช่นกัน โดยดึงตัวโปรดิวเซอร์มือดีจากเกาหลี เข้ามาร่วมพัฒนารายการ ซึ่งมองต้นแบบความสำเร็จจากรายการ เดอะ วอยซ์ ที่สามารถขายฟอร์แมทรายการไปได้ทั่วโลก และมองว่า ความสามารถและทีมงานของเซ้นส์ที่มีอยู่ สามารถจะพัฒนาฟอร์แมทรายการที่น่าสนใจได้เช่นกัน
ปัจจุบัน บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด มีรายได้จากธุรกิจสื่อในการเป็นคอนเทนต์ โพรไวเดอร์ ประมาณ 69% ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 650 ล้านบาท, รายได้จากสินค้าโฮมช้อปปิ้งและเครื่องสำอาง 27% ตั้งเป้า 200 ล้านบาทปีนี้ และอื่นๆ อาทิ รายได้จากธุรกิจอีเว้นท์ 4% หรือประมาณ 100 ล้านบาท
แน่นอนว่าในภาวะที่สื่อเดิม อย่างทีวี เติบโตลดลง และออนไลน์เป็นดาวรุ่ง ทำให้การปรับตัวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ยังพึ่งพาธุรกิจทีวี เช่นเดียวกับ เซ้นส์ฯ ที่ต้องมองหาธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาต่อยอดสร้างอีโคซิสเต็มของตัวเอง เพื่อไม่ให้ซบเซาไปตามภาวะสื่อ โดยจากการปรับตัวครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตได้ถึง 25% ในปีนี้
