ช้อปปี้ เปิด 6 เทรนด์อีคอมเมิร์ซครึ่งปีแรกปี 2562 กรุงเทพยังเป็นมหานครการช้อปปิ้งออนไลน์ในประเทศไทย ไลฟ์สตรีมมิ่งดึงลูกค้าเข้าเยี่ยมชมร้านค้าเพิ่ม
ทั้งนี้ จากการศึกษาฐานข้อมูลผู้ใช้กว่า 30 ล้านรายในประเทศไทย โดย ช้อปปี้ ผู้นำแพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน พบว่า การช้อปปิ้งออนไลน์ได้กลายมาเป็น บรรทัดฐานใหม่ของการจับจ่ายในวิถีชีวิตประจำวันของคนไทยทั่วประเทศ ด้วยลักษณะของพฤติกรรมการจับจ่ายและ ความชื่นชอบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของผู้ใช้งานชาวไทย
นางสาวอากาธา โซห์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปัจจุบันช้อปปี้มีผู้ใช้ในประเทศไทยกว่า 30 ล้านคนและจำนวนผู้ใช้ของเรากำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถใช้ข้อมูลที่มีอย่างมหาศาลนี้มาศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค โดยผลการศึกษาพบ 6 เทรนด์หลักที่น่าสนใจในช่วงครึ่งแรกของปี 2562
เทรนด์ที่ 1 ช้อปปิ้งออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ยังคงเป็นมหานครของการช้อปปิ้งออนไลน์ของประเทศไทย ด้วยสถิติเป็นเมืองที่มียอดคำสั่งซื้อสูงที่สุดบนแพลทฟอร์มช้อปปี้ในปีนี้ แต่ในขณะเดียวกันการช้อปออนไลน์ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วประเทศ เช่น จังหวัดบึงกาฬ อุดรธานี และสตูล ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการเติบโตด้านการจับจ่ายบนช้อปปี้สูงที่สุดในช่วงครึ่งปีแรก
สำหรับหมวดสินค้ายอดนิยมในหมู่นักช้อปชาวไทย ได้แก่ สินค้ากลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม กลุ่มสินค้ามือถือและอุปกรณ์เสริม และกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ในบ้าน เนื่องจากมีสินค้าหลากหลายรายการให้เลือกที่ช้อปปี้ โดยสินค้ายอดนิยมของคนไทย ได้แก่ ครีมบำรุงผิว มาส์กบำรุงผิวหน้า ในขณะเดียวกันสินค้าเทคโนโลยีระดับพรีเมียมอย่าง สมาร์ทโฟนและนาฬิกาสำหรับฟิตเนสก็เป็นที่ต้องการมากเช่นกัน
เทรนด์ที่ 2 “วันและเวลา” ที่คนไทยนิยมช้อปออนไลน์
คนไทยนิยมช้อปออนไลน์มากที่สุดในช่วงบ่ายและกลางคืน โดยเฉพาะเวลา 12:00-14:00 และ 21:00-23:00 ซึ่งเป็นไปตามพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย โดยคนไทยมักช้อปปิ้งในยามว่าง เช่น ช่วงพักกลางวันหรือก่อนนอน นอกจากนี้ยังมีการเข้าชมสินค้าออนไลน์ในช่วงระหว่างเดินทางกลับบ้าน โดยเห็นได้จากยอดการใช้งานที่สูงขึ้นในช่วง 18:00-21:00 ของทุกวัน
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือการช้อปของคนไทยนั้นจะสูงที่สุดในช่วงกลางสัปดาห์ โดย “วันพุธ” เป็นวันที่มีสถิติการเข้าใช้งานและจับจ่ายสูงที่สุดบนช้อปปี้
เทรนด์ที่ 3 คนไทยมองหาแบรนด์โปรดและสินค้าที่ต้องการในแพลตฟอร์มช้อปปี้
ผู้บริโภคเริ่มมองหาสินค้าที่ต้องการผ่านช้อปปี้ โดยมีสถิติยอด การค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดมากกว่า 1,000 ล้านครั้งบนช้อปปี้ในช่วงครึ่งปีแรก นอกจากนี้พบว่าคนไทยนิยมค้นหาเกี่ยวกับแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องใช้ในบ้านมากที่สุด ดังนั้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของชาวไทยในการช้อปปิ้งผ่านโทรศัพท์มือถือ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช้อปปี้ได้เปิดตัวฟีเจอร์การค้นหาด้วยรูปภาพ (Image Search) โดยฟีเจอร์นี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่มคนไทย โดยตั้งแต่เปิดตัวฟีเจอร์มียอดการค้นหาด้วยรูปภาพสูงถึงประมาณ 4 แสนครั้งต่อเดือน
เทรนด์ที่ 4 “ผู้ชาย” เริ่มช้อปออนไลน์มากขึ้น
ปัจจุบันนี้ผู้ชายช้อปออนไลน์มากขึ้นและการซื้อของผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซได้กลายเป็นเรื่องปกติในประเทศไทย การช้อปออนไลน์ของนักช้อปเพศชายมีความถี่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และพฤติกรรมการช้อปของผู้ชายก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ในครึ่งปีแรกผู้ชายไทยมีการช้อปสินค้าในหมวดหมู่สินค้าเครื่องใช้ในบ้าน และหมวดหมู่สินค้าเพื่อสุขภาพและความงามเพิ่มขึ้นมากที่สุด ซึ่งมีสินค้ายอดนิยมในหมู่คุณผู้ชายอย่าง แฮร์โลชั่น หลอดไฟโซลาร์เซลล์ และเครื่องฟอกอากาศ
เทรนด์ที่ 5 คนไทยนิยม “ชำระเงินปลายทาง” มากที่สุด
จากการสังเกตพบว่าผู้ใช้ชาวไทยนิยมการชำระเงินปลายทาง หรือ Cash on Delivery (COD) เพราะสะดวกสบายและสร้างความอุ่นใจในการซื้อสินค้าจากผู้ซื้อทั่วประเทศ ที่สังเกตได้อีกอย่างก็คือ การชำระเงินแบบไร้เงินสด อย่าง การชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเป็นช่องทางที่ผู้ใช้ในกรุงเทพฯนิยมมากที่สุด ในทางกลับกันการชำระเงินปลายทางและการโอนเงินผ่านธนาคาร เป็นช่องทางการชำระที่ผู้ใช้งานในต่างจังหวัดนิยมมากกว่า
เทรนด์ที่ 6 ช้อปปี้ ไลฟ์ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
การไลฟ์สตรีมบนช้อปปี้ กลายเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมและดึงดูดความสนใจผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นการสื่อสารแบบเรียลไทม์ที่ทำให้ผู้ขายสามารถติดต่อกับผู้ซื้อได้ง่ายขึ้น ช้อปปี้เริ่มเปิดตัวฟีเจอร์ช้อปปี้ ไลฟ์ (Shopee Live) ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมียอดวิวรวมกันกว่า 1,700,000 วิว นอกจากนี้ ช้อปปี้ยังสังเกตเห็นว่าหลังจากเปิดตัวฟีเจอร์ช้อปปี้ ไลฟ์ผู้ขายและแบรนด์ต่างๆ มียอดผู้เข้าเยี่ยมชมในหน้าร้านค้ามากขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 30 เท่า
ข้อมูลที่ได้นี้ สามารถนำมาใช้เพื่อพัฒนายกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ให้ตรงกับความต้องการของคนไทยได้ดียิ่งขึ้น
