Sme

‘ชิปป๊อป’ ลุยดิสรัปวงการโลจิสติกส์-ระบบชำระเงินอีคอมเมิร์ซ กรุยทางสู่ยูนิคอร์นเมืองไทยใน 5 ปี

หลังจากก่อตั้งธุรกิจขึ้นในปี 2558 และเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบมาเพียง 4 ปี แต่การเติบโตของ บริษัท ชิปป๊อป จำกัด ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาร เพราะในปี 2559 มียอดจัดส่งสินค้าจากกว่า 1.8 แสน ชิ้น เพิ่มเป็น 1.3 ล้านชิ้นในปี 2560 ซึ่งเติบโตถึว 634% และในปี 2561 ที่ผ่านมา ยอดจัดส่งสินค้าผ่านแพลตฟอร์มของชิปป๊อป เพิ่มขึ้นเป็น 2.51 ล้านชิ้น เติบโต 62% และมีรายได้แตะ 100 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว

สุทธิเกียรติ จันทรชัยโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิปป๊อป จำกัด 1
สุทธิเกียรติ จันทรชัยโรจน์

แต่เป้าหมายของชิปป๊อป ที่มุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านระบบโลจิสติกส์ครบวงจรบนแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงวางเป้าหมาย 5 ปีจากนี้จะเป็นสตาร์ทอัพไทยที่ไต่ไปสู่ระดับ “ยูนิคอร์น” ด้วยเป้าหมายมูลค่าบริษัทไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 500 ล้านบาท ทำให้ ชิปป๊อป ต้องขยายธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตให้ได้ปีละไม่ต่ำกว่า 3 เท่าตัว

นายสุทธิเกียรติ จันทรชัยโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิปป๊อป จำกัด สตาร์ตอัพด้านโลจิสติกส์สัญชาติไทย ผู้ให้บริการด้านระบบโลจิสติกส์ครบวงจรที่รวบรวมบริษัทขนส่งมาไว้ในระบบเดียว เปิดเผยว่า การสร้างการเติบโตของธุรกิจ ต้องมาจากการดิสรัปหรือปฏิวัติวงการ ซึ่งสิ่งที่ชิปป๊อปจะพัฒนาต่อจากนี้ไป จะเป็นการดิสรัปวงการโลจิสติกส์และวงการชำระเงินในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นเร็วๆ นี้

การปฏิวัติวงการโลจิสติกส์ของชิปป๊อป กล่าวได้ว่าเริ่มตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินธุรกิจที่รวบรวมบริษัทขนส่งมาไว้ในระบบเดียว จนถึงปัจจุบันมีลูกค้าพันธมิตรในธุรกิจโลจิสติกส์ 10 ราย และในปีนี้จะเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 4 ราย ตามด้วยล่าสุด การขยายบริการสู่ระบบเก็บเงินปลายทาง (COD Gateway) เพื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นรายแรกในประเทศไทย

presentation งานแถลงข่าว shippop

การพัฒนาระบบดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยยังมีการเติบโตต่อเนื่อง จากพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของไทยที่เพิ่มสูงขึ้น และกว่า 11 ล้านคนทั่วประเทศ นิยมซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์ ส่งผลให้ธุรกิจโลจิสติกส์เติบโตตามไปด้วย โดยเฉพาะธุรกิจไปรษณียภัณฑ์และรับส่งสินค้า ที่มีมูลค่ากว่า 27,200 ล้านบาท ในปี 2559 ขยายตัวขึ้น 5.2 %, ปี 2560 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 28,100 ล้านบาท ขยายตัว 8.7 % และในปี 2561 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 31,300 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 11.3 %

นอกจากนี้ยังพบว่า มีผู้บริโภคกว่า 65% ชอบระบบเก็บเงินปลายทางที่ช่วยสร้างความมั่นใจได้จากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้บริษัทขนส่งหันมาให้บริการส่งของแบบเก็บเงินปลายทางที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น

จากแนวโน้มดังกล่าว ชิปป๊อปจึงพัฒนาระบบ COD Gateway ระบบที่รวบรวมบริการเก็บเงินปลายทางของขนส่งเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยให้ผู้ใช้งานได้เปรียบเทียบราคาและพื้นที่การให้บริการ และเลือกใช้งานระบบทุกขนส่งได้ในที่เดียว ตอบสนองความต้องการของผู้ค้าออนไลน์ และลดปัญหากวนใจต่างๆ ด้วยบริการที่ครอบคลุมทั้งการเปรียบราคาการขนส่งแบบเก็บเงินปลายทาง

29489

นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบพื้นที่ให้บริการของระบบขนส่งแต่ละเจ้า การชำระเงินค่าขนส่งผ่านระบบออนไลน์ที่สามารถออกหมายเลขพัสดุให้ทันที ระบบขนส่งที่สามารถเข้ารับพัสดุถึงบ้าน หรือส่งพัสดุ ณ ที่ทำการไปรษณีย์โดยไม่ต้องต่อแถว รวมถึงสามารถติดตามสถานะทุกระบบการขนส่งได้ในที่เดียว ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเลือกการขนส่งได้ตามความต้องการได้ด้วยตัวเอง

ในเบื้องต้น ชิปป๊อปจะให้บริการเก็บเงินปลายทางผ่านพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ 4 ราย ได้แก่ ไปรษณีย์ไทย, แฟลช เอ็กซ์เพรส, เอสซีจี ยามาโตะ เอ็กซ์เพรส, และซีเจ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จากนั้นจะขยายพันธมิตรเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 10 รายในปีนี้ พร้อมวางเป้าหมายรายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท

สำหรับบริการเก็บเงินปลายทางดังกล่าว สิ่งที่ลูกค้าจะได้คือ ความสะดวกในการซื้อสินค้าและมั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกหลอกให้โอนเงินโดยไม่ได้รับสินค้า และพบว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ต้องการจ่ายเงินล่วงหน้าจนกว่าจะได้รับสินค้า นอกจากนี้ยังไม่ต้องวุ่นวายเรื่องการโอนเงินอีกด้วย ขณะที่ร้านค้าเองจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางการขายสินค้าออนไลน์มากขึ้น และมั่นใจได้ว่าจะได้รับเงินค่าสินค้าในภายหลังตามดีลที่ตกลงไว้แน่อนน รวมถึงการมีเครดิตที่ดีซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าได้

shippop

นอกจากบริการล่าสุด ชิปป๊อปยังเดินหน้าพัฒนาบริการใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างต่อเนื่อง อาทิ การพัฒนา ฟรีเท็กซ์ (FREE TEXT) ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ร้านค้าสามารถก๊อปปี้ชื่อที่อยู่ลูกค้าจากโซเชียลมีเดีย พร้อมเลือกบริษัทขนส่ง สร้างรายการจัดส่งเชื่อมกับระบบขิงชิปป๊อป พร้อมสามารถปรินต์มาแปะพัสดุได้ทันทีเหมาะสำหรับผู้ค้าออนไลน์ที่ต้องส่งสินค้าจำนวนมากและมีลูกค้าหลายรายซึ่งจช่วยลดความยุ่งยากก่อนจัดส่งได้มาก

พร้อมกันนี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบชำระเงินรูปแบบใหม่ ที่ นายสุทธิเกียรติ เชื่อว่า จะเป็นการปฏิวัติระบบการชำระเงินแบบ Cashless อีกด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงิน โดยเฉพาะธนาคาร จึงยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ รวมไปถึงการเตรียมขยายธุรกิจจัดส่งข้ามประเทศ ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีนี้

ทั้งหมดนี้เป็นแผนงานที่ ชิปป๊อปวางไว้ ยังไม่รวมถึงสิ่งใหม่ๆ ที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไปสู่เป้าหมาย “ยูนิคอร์น” เมืองไทย ถือได้ว่าเป็นสตาร์ทอัพไทยดาวรุ่งที่มีอนาคตไกลทีเดียว

 

 

Avatar photo