วันก่อนมีโอกาสไปร่วมงานแถลงข่าวการจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 22 ของเครือสหพัฒน์ ซึ่งนอกจากงานแถลงว่าจะมีงานสหกรุ๊ป แฟร์ วันที่ 28 มิถุนายน – 1 กรกฎาคมนี้ ที่ไบเทคบางนาแล้ว ยังมีพิธีลงนามในสัญญาความร่วมมือ ระหว่างเครือสหพัฒน์ กับบีทีเอสกรุ๊ป ระหว่างนายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา เสี่ยใหญ่แห่งสพัฒน์ และนายคีรี กาญจนพาสน์ บิ๊กบอสบีทีเอสกรุ๊ป
ความร่วมมือครั้งนี้ระบุว่าจะเป็นการใช้ “บิ๊กดาต้า” ฐานข้อมูลมหาศาลของลูกค้า ทั้งในเครือสหพัฒน์และบีทีเอส มาต่อยอดการทำธุรกิจ ภายใต้ข้อตกลง 8 พันธกิจ ประกอบด้วย
- E-Payment System ระบบชำระเงินอีเล็คโทรนิกส์ เพื่อปูทางไปสู่สังคมไร้เงินสด แน่นอนย่อมต่อเนื่องไปยังร้านค้า และจุดจำหน้าสินค้าในเครือสหพัฒน์ อย่างร้านสะดวกซื้อ Lawson, ร้านสินค้าราคาเดียว Daiso จากญี่ปุ่นที่ทางเครือสหพัฒน์ถือหุ้น โดยเครื่องมือแน่นอนว่า บัตร Rabbit ของบีทีเอสจะเป็นปัจจัยสำคัญ การใช้บัตร Rabbit ชำระเงินผ่านร้านค้าในเครือสหพัฒน์ ย่อมทำให้บัตร Rabbit มีโอกาสจะมีส่วนแบ่งการตลาดบัตรสมาร์ทการ์ด ที่ใช้ในการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่บัตรนี้ใช้จ่ายค่ารถไฟฟ้า และร้านค้าเพียงไม่กี่แห่ง
- Targeting Media การวางแผนใช้สื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย โดยอาศัยฐานข้อมูลผู้บริโภคระดับบุคคล ทำให้เครือสหพัฒน์สามารถทำเคมเปญโฆษณาได้เฉพาะเจาะจงขึ้น เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และเมื่อรวมกับข้อมูลของ VGI บริษัทโฆษณาในเครือ BTS จะยิ่งทำให้โฆษณาสินค้าในเครือสหพัฒน์ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำยิ่งขึ้น
- M-Commerce ยุคโทรศัพท์มือถือครองเมือง ทุกวันนี้ผู้คนเคยชินกับการใช้สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์เอนกประสงค์ อยากได้อะไร อยากจ่ายอะไร ก็สามารถใช้บริการผ่าอนสมาร์ทโฟนได้ สมาร์ทโฟนจะยิ่งมีบทบาทมากขึ้นในสังคมไร้เงินสดของ ซึ่งใน BTS นอกจากบัตร Rabbit แล้วยังมีบริการ Line Pay ที่ให้บริการในโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ทำให้ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์สะดวกรวดเร็วมากขึ้น
- Loyalty Program เป็นโปรแกรมแลกรางวัลผ่านบัตรสมาชิก ความร่วมมือนี้อาจจะเป็นบัตร Rabbit หรือบัตรสมาชิกในเครือสหพัฒน์ เช่น บัตรสมาชิก HIS & HER Plus Point ก็สามารถทำได้ทั้งคู่
- Big data Partnership การร่วมมือกันครั้งนี้ช่วยให้เครือสหพัฒน์ ไม่ต้องลงทุนวางระบบและเก็บข้อมูล Big Data ด้วยตัวเอง เพราะมี BTS ทื่วางรากฐานเรื่องนี้มาอย่างยาวนานเป็นพันธมิตรในการสนับสนุนข้อมูล
- Staff Card จะเป็นอย่างไรถ้าพนักงานหลายจำนวนมากของเครือสหพัฒน์ เปลี่ยนบัตรพนักงานมาเป็นบัตรที่ผูกกับ Rabbit ย่อมทำให้ฐานผู้ใช้งานบัตร Rabbit ขยายตัวขึ้น ลดค่าดูแลระบบเฉลี่ยต่อหัวลงไปได้หลายเท่า และมีส่วนช่วยให้ก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดเร็วขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
- Distibution ช่องทางการกระจายสินค้า ในอนาคตอาจจะมีจุดจำหน่ายสินค้าของเครือสหพัฒน์บนนสถานีรถไฟฟ้า BTS ในรูปแบบคีออส หรือตู้กดอัตโนมัติ ซึ่งแน่นอนว่าต้องชำระสินค้านั้นด้วยบัตร Rabbit หรือ LINE Pay ถือว่าได้การตอบแทนทั้งสองฝ่าย
- Smart Sampling การแจกของตัวอย่างฟรี เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้ กับกลุ่มลูกค้าทั้งของ BTS และเครือสหพัฒน์ แล้วกลับมาซื้อสินค้า รวมถึงช่วยบอกต่อให้เพื่อนมาซื้อสินค้า ก็ได้ฐานลูกค้าที่กว้างขึ้นทั้งสองฝ่าย
“บิ๊กดาต้า” แม้จะมีคนพูดถึงบ่อยครั้ง แต่ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ ผลจากความร่วมมือในครั้งนี้จะเห็นเป็นรูปธรรมได้มากน้อยแค่ไหนคงต้องใช้เวลา แต่การผนึกความร่วมือของ 2 บริษัทใหญ่นี้ น่าจะเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจและการสื่อสารตลาด กับทั้งสองบริษัทได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
